แอมะซอน (Amazon) กำลังต่อสู้กับการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังประกาศมอบส่วนลด 10 เหรียญ (ประมาณ 300 บาท) ให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ 25 เหรียญขึ้นไป (ประมาณ 840 บาท) แลกกับการให้ลูกค้าไปรับสินค้าที่สั่งซื้อด้วยตนเองที่ร้านค้าพาร์ตเนอร์ เช่น Whole Foods, Amazon Fresh และ Kohl’s
โครงการดังกล่าวถูกประกาศผ่านอีเมลของลูกค้า ซึ่งเป็นสมาชิกของไพรม์ (Prime) บริการขนส่งสินค้าของ Amazon โดย Dean Maciuba ที่ปรึกษาด้านการขนส่งทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Prime ที่ได้รับข้อเสนอ โดยเขาระบุว่า การขยายจุดรับสินค้าของ Amazon ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยต้นทุนในการจัดส่งได้
จากรายงานของเว็บไซต์ The Information ระบุว่า Amazon เริ่มเก็บค่าธรรมเนียม 1 เหรียญ (ประมาณ 30 บาท) เพิ่มเติม จากลูกค้าที่ส่งสินค้าคืนผ่าน UPS หากที่อยู่จัดส่งของพวกเขามีสถานที่รับหรือส่งคืนของ Amazon ใกล้ ๆ
กลยุทธ์ของ Amazon ที่ดูจะเป็นผลเสียกับบริษัทขนส่ง แต่กลับไม่เกิดผลเช่นนั้น โดย UPS และ FedEx บริษัทขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ โดยพวกเขากลับสนับสนุนให้ลูกค้าใช้บริการจุดรับสินค้าที่ร้านค้าพาร์ตเนอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีต้นทุนในการจัดส่งสูง
ยังไม่มีรายงานว่าผู้บริโภครู้สึกอย่างไรกับโครงการดังกล่าว แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Amazon ได้ทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการขนส่งที่รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่อาจเอื้อให้ Amazon ปรนเปรอลูกค้าเช่นเดิมได้อีกต่อไปแล้ว และแผนลดต้นทุนจำเป็นต้องถูกนำมาใช้ในทุกมิติ
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส