เมื่อปี 2021 โกลด์แมน แซคส์ และ มอร์แกน สแตนลีย์ ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกออกมายอมรับว่า บิตคอยน์ (Bitcoin) คืออนาคตของการเงินโลก และเริ่มแนะนำลูกค้าของธนาคารให้เข้าลงทุน
แต่ความเห็นของธนาคารทั้งสองกลับสวนทางกับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซีอีโอของ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) และนักลงทุนที่ได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ด้วยความมั่งคั่งมากกว่า 100,000 ล้านเหรียญ (ราว 3.44 ล้านล้านบาท) โดย บัฟเฟตต์ เคยออกมาบอกว่าไม่ว่า “บิตคอยน์” จะราคาเท่าไร เขาก็จะไม่ซื้ออย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้มีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่? คลิปนี้เราจะบรีฟให้คุณฟัง
ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เมื่อปี 2022 บัฟเฟตต์ได้แสดงความคิดเห็นว่า บิตคอยน์นั้นไร้ค่าและไม่สามารถสร้างรายได้ โดยเขามองว่าการซื้อที่ดินมาปลูกผักนั้น เขายังสามารถขายผลผลิตได้ หรือแม้แต่การซื้ออะพาร์ตเมนต์มาปล่อยเช่า ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่าบิตคอยน์
บัฟเฟตต์อธิบายว่า สกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์นั้น ไม่ได้สร้างหรือผลิตอะไรเลย มันเกิดขึ้นด้วยการให้ค่าจากผู้คน ราวกับเสกขึ้นมา เสร็จแล้วผู้คนก็ไปผูกติดเวทมนตร์เข้ากับสิ่งต่าง ๆ มากมายกันเอง
บัฟเฟตต์ยังบอกอีกว่า ถ้ามีคนเสนอขายบิตคอยน์ทั้งหมดในโลกให้เขาในราคา 800 บาท เขาก็คงจะไม่รับข้อเสนออยู่ดี เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเอามันไปทำอะไร ในทางกลับกัน ถ้ามีคนเสนอขาย 1% ของที่ดินทำเกษตรทั้งหมดในสหรัฐฯ ด้วยราคา 800,000 บาท เขาคงจะซื้อทันที หรือต่อให้เขาซื้อที่ดินไปแล้ว และมีคนมาเสนอขาย 1% ของอะพาร์ตเมนต์ทั้งหมดในสหรัฐฯ ด้วยราคา 800,000 บาทอีก เขาก็จะรีบเขียนเช็คอย่างไวและซื้อเพิ่มทันที เพราะเขารู้ว่าจะสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรนั่นเอง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ใช่มหาเศรษฐีคนเดียวที่ปฏิเสธการลงทุนในบิตคอยน์ เพราะว่าเจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ (Microsoft) เคยออกมาวิจารณ์บิตคอยน์อย่างเจ็บแสบว่า นี่คือทฤษฎีคนโง่กว่าแบบ 100%
ทฤษฎีคนโง่กว่า หรือ Greater Fool Theory หมายถึง การที่มีคนยอมซื้อสินทรัพย์ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งจะถูกเรียกว่า “คนโง่” และมีอีกคนที่ยอมซื้อสินทรัพย์นี้ต่อในราคาที่แพงขึ้นไปอีก เพื่อหวังผลกำไรที่มากขึ้นในอนาคต ก็จะถูกเรียกว่า “คนโง่กว่า” นั่นเอง
แม้ว่าจะมีมหาเศรษฐีของโลกถึง 2 คน ที่ออกมาปฏิเสธบิตคอยน์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสกุลเงินดิจิทัลนี้จะถูกละเลยจากสายตาของผู้มั่งคั่งทั้งหลาย เพราะว่า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และเทสลา (Tesla) ออกตัวแรงเสมอในการสนับสนุนบิตคอยน์ รวมถึงคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ เช่น ดอจคอยน์ (Dogecoin) ซึ่งเรื่องนี้เกตส์ก็ยังไม่วายวิจารณ์อย่างเจ็บแสบอีกว่า “ถ้าคุณมีเงินน้อยกว่า อีลอน มัสก์ ก็ควรจะระวังเอาไว้บ้าง เมื่อลงทุนในบิตคอยน์”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส