นายคอลิน วู (Colin Wu) นักข่าวสายคริปโทเคอร์เรนซีเปิดเผยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ WuBlockchain ว่า ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 8,000 คน กำลังจะปลดพนักงานของบริษัทออกราว 20% หลังจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ในช่วงขาลง
ล่าสุด นายฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao) หรือ CZ ซีอีโอของไบแนนซ์ ได้ออกมาตอบโต้ทวีตดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า ไบแนนซ์ไม่มีแผนการปลดพนักงานอย่างที่นายวูกล่าวอ้าง และนี่คือข่าว FUD (Fear, Uncertainty และ Doubt) เพื่อทำให้นักลงทุนในตลาดเกิดความกลัว ความสงสัย และเกิดความไม่แน่ใจในการลงทุน
CZ อธิบายว่า ไบแนนซ์มีระบบที่ชื่อว่า “Bottom Out” ที่จะคัดพนักงานที่ไม่เหมาะกับบริษัทออกอย่างต่อเนื่อง โดยพนักงานที่ออกไปนั้น หลายคนเป็นคนทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพสูง แต่พวกเขากลับไม่สามารถปรับตัวเข้ากับทีมงานและวัฒนธรรมองค์กรได้
ระบบ Bottom Out จะถูกดำเนินการทุก ๆ สัปดาห์ แต่จะไม่มีการกำหนดตัวเลขที่แน่นอนว่า สัปดาห์นี้จะคัดออกกี่คน หรือจะคัดออกร้อยละเท่าไร เพราะวัตถุประสงค์ของระบบ Bottom Out คือการคัด “คนที่ไม่ใช่” ออกไป
อย่างไรก็ตาม CZ ยอมรับว่าชื่อระบบ Bottom Out อาจทำให้ใครหลายคนสับสัน เมื่อประกอบกับแผนการลดต้นทุนอื่น ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์, เที่ยวบิน หรืออาหาร ก็อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าไบแนนซ์กำลังมีปัญหาด้านการเงิน และต้องเร่งลดต้นทุน
“ผมน่าจะรู้ซะหน่อยว่าชื่อนี้มันไม่เหมาะสมและชวนเข้าใจผิด ผมจะคิดชื่อใหม่ให้มันในเร็ว ๆ นี้” CZ กล่าว
ซีอีโอของไบแนนซ์ระบุว่า ตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 บริษัทยังคงทำกำไรได้ และหากจะให้ย้อนกันจริง ๆ ไบแนนซ์ผ่านช่วงฤดูหนาวของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมาแล้ว 2 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2017 โดยบริษัทยังคงความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนก็ตาม
ทางด้าน นายแพททริก ฮิลแมน (Patrick Hillman) เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการสื่อสารของไบแนนซ์ ยืนยันว่า บริษัทยังคงทำกำไรได้ และมีผลงานในระดับ “น่าประทับใจ” อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าไบแนนซ์มีการตรวจสอบความสามารถขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นรวมถึงการเลิกจ้างพนักงานบางส่วน ซึ่งนายฮิลแมนยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวเลข 20% อย่างที่ WuBlockchain กล่าวอ้างอย่างแน่นนอน
ปัจจุบัน ไบแนนซ์อยู่ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ และมีการขยายตัวไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทย
ที่มา : WuBlockchain, CZ, Binance
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส