ภาวะตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ยังคงมีความผันผวนสูงและอ่อนไหวไปกับกระแสข่าวรายวัน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือนโยบายของรัฐบาลในอนาคตที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างไร

คำถามเหล่านี้ยังคงกระทบความเชื่อมั่น (Sentiment) ของนักลงทุน และทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นมา โดยตลาดหุ้นไทยลงไปปิดตลาดต่ำสุด -19.97 จุด และปิดสูงสุดที่ +14.35 จุด ดังนั้น เมื่อยังมีปัจจัยการเมืองยังกดดันตลาดหุ้นอยู่ นักทุนจึงหันไปสนใจหุ้นที่มีการปันผลมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดผันผวน

ตามหลักการแล้ว หุ้นปันผลดีก็มักเป็นหุ้นพื้นฐานดีด้วย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด เพราะราคาหุ้นปันผลส่วนใหญ่มักเคลื่อนไหวน้อยกว่าดัชนีตลาดรวม เมื่อดัชนีปรับตัวลดลง ราคาหุ้นจะลงน้อยกว่า หรือเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นก็จะขึ้นน้อยกว่าเช่นกัน (ยกเว้นกรณีมีเหตุการณ์เฉพาะตัวของหุ้นนั้น ๆ)

ข้อมูลจากหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SETHD หรือ SET High Dividend Index ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้คัดเลือกหุ้น 30 ตัว ในดัชนี SET 100 ที่มีสภาพคล่องและมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง (Market Cap.) พบว่า 10 หุ้นที่มีอัตราเงินปันผลผลตอบแทนสูงกว่า 6% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566) โดยมีจำนวนเงินปันผลล่าสุด ดังต่อไปนี้

หุ้นอัตราผลตอบแทนปันผล (บาทต่อหุ้น)
TISCO8.05%7.75
LH6.94%0.75
SPALI6.77%0.35
ORI6.43%0.57
TU6.31%1.56
PTT6.30%5
INTOUCH6.29%0.70
PTTEP6.09%1.90
QH6.09%0.10
TCAP6.08%1.90

อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน รวมถึงราคาและความสนใจในหุ้นนั้น ๆ ของนักลงทุนแต่ละคน ซึ่ง beartaiBRIEF มี 4 คำแนะนำมาฝาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาลงทุนในหุ้นปันผลครับ

  1. พิจารณานโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทว่าจ่ายมากน้อยแค่ไหน กี่เปอร์เซ็นต์ของกำไร โดยปกติแล้ว บริษัทจดทะเบียนจะจ่ายปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ของกำไรสุทธิ
  2. พิจารณาผลประกอบการของบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงสามารถในการทำกำไร และการจ่ายเงินปันผล
  3. ต้องเปรียบเทียบเงินปันผลกับราคาหุ้น เพราะการพิจารณาแค่เงินปันผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรเปรียบเทียบกับราคาหุ้นด้วยว่าคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร เหมือนกับการคำนวณว่าเรามีต้นทุนเท่าไร และได้ผลตอบแทนมาเท่าไร
  4. เมื่อเห็นการจ่ายปันผลเยอะ ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนเข้าลงทุน ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า เงินปันผลที่จ่ายนั้นมาจากกำไรส่วนไหน เพราะมีบางครั้งที่บริษัทจ่ายปันผลในอัตราสูง แต่ไส้ในมาจากกำไรพิเศษ เช่น การขายสินทรัพย์ออกไป มิได้มาจากกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท

ที่มา : SETHD

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส