บมจ.การบินไทย อยู่ระหว่างวางแผนจัดหาฝูงบินใหม่เพิ่มอีก 51 ลำ ภายในปี 2570 เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่ใช้งานจากปัจจุบันอยู่ที่ 65 ลำ เป็น 113 ลำ รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตและทดแทนเครื่องบินเก่าที่ต้องปลดระวาง
รายงานข่าวจาก The Nation ระบุว่าเครื่องบินใหม่จำนวน 51 ลำ เแบ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส A321 neo จำนวน 10 ลำ, เครื่องบินแอร์บัส A350-900 จำนวน 11 ลำ ในขณะที่เครื่องบินอีก 30 ลำ จะเป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง โดยยังไม่มีการระบุรุ่น เนื่องจาก บมจ.การบินไทย กำลังรอข้อเสนอจากแอร์บัส (Airbus) และโบอิ้ง (Boeing) โดยคาดว่าจะส่งมอบเครื่องบินทั้งหมดได้ระหว่างปี 2569-2570
แผนจัดหาฝูงบินใหม่ของ บมจ.การบินไทย เป็นไปเพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่ต้องปลดระวาง และการรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต เนื่องจากขณะนี้อุตสาหกรรมการบินโลกฟื้นตัวแล้ว และการเดินทางกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ทำให้การบินไทยไม่มีเครื่องบินเพียงพอที่จะนำมาให้บริการ
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ The Nation ว่า การจัดหาเครื่องบินใหม่ในปัจจุบันเป็นเรื่องยาก เนื่องจากหลายสายการบินพยายามขยายฝูงบินเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงการลดต้นทุน เช่น เครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถประหยัดน้ำมัน ลดค่าบำรุงรักษา และค่าแรงงานลงได้
สำหรับ บมจ.การบินไทย ปัจจุบัน กำลังกำลังขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น เพื่อลดต้นทุนการซ่อมบำรุง เช่น เครื่องบินที่จะปลดระวา รวมถึงสำนักงานทั้งในไทยและต่างประเทศ ดังนั้น การจัดหาฝูงบินใหม่จึงเป็นไปภายใต้โครงการเช่าหรือเช่าซื้อ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของสายการบิน
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2566 บมจ.การบินไทย สามารถทำกำไรสุทธิได้ 12,500 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่า จะสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ 9 ล้านคน และสร้างรายได้ 140,000 ล้านบาทภายในปี 2566 และภายในปี 2567 จะรองรับผู้โดยสารได้ 12 ล้านคน และสร้างรายได้ 160,000 ล้านบาท
ที่มา : The Nation, Bloomberg Law
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส