เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการรายงานถึงความเคลื่อนไหวของวาฬหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือครองเหรียญอีทีเรียม (ETH) ได้โอนย้ายโทเค็นมูลค่าประมาณ 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (4,919 ล้านบาท) ไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทชั้นนำ ได้แก่ Coinbase, Kraken และ OKX
รายงานจาก Whale Alert ผู้ติดตามความเคลื่อนไหวธุรกรรมขนาดใหญ่และที่น่าสนใจบนบล็อกเชนเผยว่า พบร่องรอยวาฬอีทีเรียมได้โอนโทเค็นหลายธุรกรรมมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายคริปในช่วงที่มูลค่าตลาดของอีทีเรียมลดลงในเดือนมิถุนายน
ธุรกรรมหนึ่งแสดงให้เห็นว่าได้มีการโอน 20,000 ETH มูลค่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,335 ล้านบาท) จาก Arbitrum (ARB) โซลูชันการปรับขนาดเลเยอร์ 2 ไปยัง Kraken อีกธุรกรรมเป็นการโอน 25,264 ETH มูลค่า 48.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,697 ล้านบาท) จากวอลเล็ตที่ไม่ทราบชื่อไปยัง Coinbase และพบการโอน 30,000 ETH มูลค่า 57.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,027 ล้านบาท) ไปยัง OKX
สังเกตว่าธุรกรรมขนาดใหญ่เหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ได้ยื่นจดทะเบียน Spot Bitcoin ETF แห่งแรกในสหรัฐฯ
รายงานล่าสุดจาก Goldman Sachs บริษัทจัดการการลงทุนชั้นนำระดับโลกเผยว่าอุปทานของบิตคอยน์บนตลาดซื้อขายได้ร่วงลง 4% ใกล้เคียงกับระดับในเดือนธันวาคม 2022 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ก่อนเข้าสู่ตลาดกระทิงในปี 2021
อุปทานของอีทีเรียมบนตลาดซื้อขายได้ลดลง 5.8% อยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้เนื่องมาจากนักลงทุนจำนวนมากได้ย้ายการถือครองจากแพลตฟอร์มซื้อขายไปไว้ในวอลเล็ตที่ควบคุมด้วยตัวเอง (Self custody) เพราะกลัวการปราบปรามด้านกฎระเบียบและปัญหาด้านความปลอดภัย (การถูกแฮกและโจรกรรม) และอีกเหตุผลหนึ่งสำหรับอีทีเรียม คือการสเตกมีผลจูงใจให้นักลงทุนถอนเหรียญออกมาจากแพลตซื้อขาย
ที่มา : cryptoglobe.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส