เริ่มแล้ว! กับงานแสดงสินค้านานาชาติ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค จัดโดยบริษัท กวิน อินเตอร์เทรด พร้อมด้วยหน่วยงานของรัฐและเอกชนร่วมสนับสนุนกว่า 20 องค์กร ซึ่งในงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน ได้แก่
- งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจ ปีที่ 19 (TFBO)
- งานแสดงสินค้าและอุปกรณ์ของใช้วัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม ปีที่ 17 (TRAFS)
- งานแสดงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ค้าปลีก ปีที่ 8 (ASEAN RETAIL)
- งานแสดงอุปกรณ์ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ สำหรับ ผับ บาร์ และสถานบันเทิง (PUB & BAR ASIA)
หนึ่งในไฮไลต์ของงานปีนี้คือมีการเชิญกูรู ผู้มีชื่อเสียงด้านการทำตลาดบนโลกออนไลน์ มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ฟังในประเด็น ‘เราสอนเรื่องเล่น ให้เป็นธุรกิจทำเงิน’ เรียกว่ามามอบองค์ความรู้ให้กันแบบเต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก โดยมีวิทยากรทั้งหมด 4 ท่าน ประกอบไปด้วย
- หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ จาก Show No Limit ผู้ผลิตสื่อ beartai
- ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้านอาหาร Penguin Eat Shabu และเจ้าของเพจ Torpenguin
- โอ เนติ ธรรมภานนท์ จาก Lazada
- อาร์ม กานต์ชนิต คำประชา เจ้าของร้าน Good Sunday Coffee
หนุ่ย พงศ์สุข ผู้ผลิตสื่อแบไต๋ (beartai) อธิบายว่าการทำสื่อในยุคนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูล (Data) กล่าวคือ Data is a new Oil นี่คือยุคที่ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาล โดยในทุก ๆ สัปดาห์ ทีมงานของแบไต๋จะพยายามเอาข้อมูลหลังบ้านมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เช่น ข้อมูลผู้ใช้งาน เรื่องไหนที่คนกดอ่านมากที่สุด อันดับการถูกค้นหา ยอดการเติบโต เป็นต้น ซึ่งการเอาตัวเลขต่าง ๆ เหล่านี้มาดู จะทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเพจกำลังดำเนินไปได้แบบถูกทิศทางและที่สำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการอ่านข้อมูลเหล่านี้ด้วย
หนุ่ย พงศ์สุข ยังบอกอีกว่าสื่อหลักในยุคนี้ไม่ใช่โทรทัศน์อีกต่อไป เพราะคนหันมาดูสื่อออนไลน์มากถึง 51% แล้ว แซงหน้าทั้งสื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ไปเรียบร้อย เพราะฉะนั้นในแง่ของคนทำสื่อออนไลน์ก็ต้องทำสื่อหลักให้แข็งแรง ในทีนี้คือเฟซบุ๊ก (Facebook) และยูทูบ (YouTube) พอทำ 2 อย่างนี้สำเร็จ ค่อยไปลุยตลาดใหม่อย่างเช่น ทวิตเตอร์ (Twitter), อินสตาแกรม (Instagram) หรือติ๊กต็อก TikTok เป็นต้น นอกจากนี้ ประเด็นเรื่อง AI ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เดี๋ยวนี้ AI ฉลาดขึ้นเยอะ และมีคนทำชุดคำสั่งออกมาให้ใช้มากมาย ให้เราเลือกไปทำการตลาดออนไลน์ได้ไม่รู้จบ
“ผมประกอบอาชีพนี้มา 25 ปี ทำคลิปไปแล้วกว่า 6,000 คลิป สิ่งหนึ่งที่ผมทำมาตลอดคือความถี่ในการสร้างผลงานออกมา ผมไม่เคยหายไปจากหน้าสื่อ ฉะนั้น แด่ทุกคนที่มีความฝันหรือคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าคุณพยายามมากพอ วันนึงโลกจะหันมามองคุณเอง และสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องพลิกแพลงและคิดใหม่ทุกวัน เพราะว่าความรู้มันเก่าเร็ว จะรู้แล้วรู้เลยไม่ได้ ต้องปรับปรุงและหาความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา” หนุ่ย พงศ์สุข ทิ้งท้าย
ด้าน ต่อ ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้านอาหาร Penguin Eat Shabu และเจ้าของเพจ Torpenguin ให้ความรู้เรื่องการทำตลาดบนโลกออนไลน์ไว้ว่าการจะประสบความสำเร็จได้ เราต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าของเรา เช่น พฤติกรรมลูกค้าเป็นแบบไหน เวลามากินที่ร้านแล้วใช้แฮชแท็กอะไร คนที่มาเช็กอินร้านเราคือใคร เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เรามองเห็นลู่ทางต่อไปว่าจะเสนอแพ็คเกจอะไรให้เข้ากับลูกค้าของเราได้
นอกจากนี้ ต่อ ธนพงศ์ ยังเล่าให้ฟังถึงเรื่องการทำตลาดแบบ Unique Selling Points (USP) หรือการทำตลาดให้ไม่เหมือนใครและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เมื่อเรารู้จักกลุ่มลูกค้าแล้ว สิ่งต่อไปคือต้องคิดว่าจะเสนอแพ็คเกจอะไรให้ลูกค้าดี เช่น ถ้าลูกค้าผู้หญิงที่ห่วงความสวย แต่ไม่อยากออกไปฉีดโบท็อกซ์ (เพราะกลัวติดโควิด) ทางบริษัทก็เลยผุดแคมเปญ ‘อยากกินชาบู แต่หน้าหนูก็ต้องเด้ง’ ซึ่งก็คือการซื้อชาบูแล้วแถมคูปองไปฉีดโบท็อกซ์ด้วย เรียกว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ทั้งร้านชาบู ร้านเสริมสวยและลูกค้า
คอนเซ็ปต์ในการจะทำแคมเปญให้สำเร็จคือต้อง Win-Win ทุกฝ่าย อย่างแรก ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายวินก่อน ลูกค้าต้องรู้สึกว่าพวกเขาสามารถเอาชนะร้านค้าได้ อย่างที่ 2 คือพาร์ตเนอร์จะต้องวินด้วย เขาจะได้อยากมาทำกับเราต่อ ส่วนอย่างสุดท้ายคือร้านเราก็ต้องวินด้วย มีรายได้และกำไรอย่างที่ต้องการ เมื่อทุกฝ่าย Win-Win ด้วยกันหมด แคมเปญนั้น ๆ จะประสบความสำเร็จได้
“การทำธุรกิจคือต้องมีระบบ มีเรื่องบัญชี เรื่องการเงิน เรื่องการจัดซื้อ แต่ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ยอมวางระบบ จากที่จะทำธุรกิจมันจะกลายเป็น ‘ธุระกู’ สมัยนี้มีเครื่องมือดี ๆ ให้เราใช้งานได้เต็มไปหมด แต่เครื่องมือเหล่านี้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่รู้จักวิธีการใช้ ฉะนั้น ต้องรู้จักการใช้เครื่องมือและลองเปิดใจทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องวินัย ถ้าเราทำมันทุก ๆ วัน มันจะประสบความสำเร็จเอง” ต่อ ธนพงศ์ ทิ้งท้าย
ด้าน โอ เนติ ธรรมภานนท์ ผู้เชี่ยวชาญจากลาซาด้า (Lazada) แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ยอดนิยม มาแชร์เคล็ดลับการขายของใน Lazada ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งคนมีทุนน้อยก็สามารถเปิดร้านได้ เพราะมีระบบที่เอื้อให้ผู้ขายไม่ต้องสต๊อกสินค้า สามารถโยนคำสั่งซื้อไปหาโรงงานผลิตได้เลยโดยตรง แก้ปัญหาสินค้าค้างสต๊อกได้ นอกจากนี้ ยังมีการทำ Affiliate หรือการเป็นนายหน้าขายสินค้า แค่เราทำคอนเทนต์ในเพจของตัวเองแล้วแปะลิงก์สินค้านั้น ๆ ไว้ พอลูกค้ากดสั่งซื้อผ่านลิงก์ดังกล่าว เราก็ได้ค่านายหน้าไป
ทาง Lazada ยังมี Lazada University ศูนย์ข้อมูลที่คอยให้ความรู้ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ในนั้นจะมีการให้ความรู้ทั้งเรื่องภาษี การเช็กสต็อก สอนเข้าไปดูสินค้าในจีน เอาสินค้าเข้ามาขายยังไง ผ่านช่องทางไหน เรียกว่ามีครบทุกขั้นตอนในการเปิดร้านเลยทีเดียว
“ปัจจัยที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจคือเรียนรู้เยอะ แต่ไม่ยอมลงมือทำ บางคนก็ไปดูตัวอย่างจากคนที่สำเร็จแล้วก็ไปขายตาม ทำให้เกิดการแข่งขัน สิ่งที่ตามมาคือขายได้เยอะ แต่กำไรน้อย เพราะฉะนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จ อย่างแรกคือต้องลงมือทำ อย่างที่ 2 คืออย่าไปเลียนแบบคนอื่น แค่เอาแนวทางมาปรับใช้ก็พอ อย่างที่ 3 คือต้องบริหารการเงินให้ดี ให้เอารายได้ตรงนั้นแบ่งมาเป็นเงินเดือนของเราแทน ห้ามนำเงินจากร้านค้ามาใช้ในเรื่องส่วนตัวเด็ดขาด”
มาถึงคนสุดท้าย กับ อาร์ม กานต์ชนิต คำประชา เจ้าของร้าน Good Sunday Coffee ผู้ทำคลิป ‘เขย่ากาแฟลาเต้’ จนเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล ซึ่งอาร์ม กานต์ชนิต เล่าให้ฟังในงานสัมมนาว่าคนชอบมาถามเธอว่าทำคลิปไวรัลใน TikTok พอมียอดวิวแล้วอย่างไรต่อ? TikTok มันยังสร้างรายได้ไม่ได้ไม่ใช่หรือ? แล้วพอคนดูเยอะ ยอดขายดีขึ้นไหม? คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้นหรือเปล่า? ซึ่งเธอเปิดเผยว่าพอร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้ยอดขายโตขึ้นมากถึง 300%-400% เลยทีเดียวและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกด้วยซ้ำ ซึ่งทาง Good Sunday บอกว่าทางร้านไม่ได้ต้องการลูกค้า แต่ต้องการ ‘เพื่อน’ มาดื่มกาแฟเป็นเพื่อนกัน
อาร์ม กานต์ชนิต สานต่อจากกระแสไวรัลตรงนั้นและผันตัวกลายมาเป็น Content Creator ทำให้ตอนนี้รายได้หลักของ TikTok ร้าน Good Sunday มาจากสปอนเซอร์ที่จ้างรีวิว ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับร้านคาเฟ่และไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็มี ซึ่งการจะทำคลิป ๆ นึงขึ้นมาได้ ขั้นแรกคือต้องคิดสตอรี่ขึ้นมาก่อน ดูว่าจะสื่อสารไปถึงคนดูได้อย่างไร จะใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปตรงไหน เป็นต้น ซึ่งกว่าจะกลายเป็นไวรัลจากคลิป ‘เขย่ากาแฟลาเต้’ อาร์มทำคลิปมาแล้ว 300 กว่าคลิป แต่ก็ทำมาเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้ว่าคลิปไหนจะปัง จนสุดท้ายก็มาเปรี้ยงและประสบความสำเร็จได้
“สมัยนี้ เรามีสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรู้มากมาย สำหรับตัวอาร์มเองก็ไม่ได้มีต้นทุนมากมาย แต่อาศัยการศึกษาหาความรู้และทำการตลาดควบคู่กันไป ซึ่งมาพร้อมกับความเชื่อว่าความตั้งใจและความรักในสิ่งที่เราทำ จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้”
และนี่คือสรุปประเด็นสำคัญจากงานสัมมนา ‘เราสอนเรื่องเล่น ให้เป็นธุรกิจทำเงิน’ จาก 4 กูรูผู้ช่ำชองในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ ซึ่งผู้ชมสามารถติดตามดูคลิปงานสัมมนาเต็ม ๆ ได้ที่หน้าเฟซบุ๊กของ ASEAN RETAIL ได้เลย
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีสินค้านับหมื่นรายการจากทั่วโลกของทั้ง 4 งาน มานำเสนอให้กับเจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการ/ผู้บริหาร/จัดซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม Fine Dinning ภัตตาคาร ร้านอาหาร Food Chain และ Cafe ได้สัมผัสสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด นำไปใช้ในธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ โดยคาดว่าจะมีนักลงทุน/ผู้ซื้อ ราว 24,000 คน มากกว่า 40 ประเทศ ทั่วโลก เข้าชมงาน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท ตลอดการจัดงาน 4 วัน พบกันได้ที่งานแสดงสินค้านานาชาติ งานจัดขึ้นวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส