มิตซูบิชิ มอเตอร์ (Mitsubishi Motors) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ประกาศระงับธุรกิจในจีนอย่างไม่มีกำหนดและจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานแทบทั้งหมดด้วย หลังจากยอดขายในจีนตกฮวบมาหลายปีติดต่อกัน เพราะเทรนด์ในจีนเริ่มหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างคับคั่ง ทำให้รถน้ำมันขายได้น้อยลง
มิตซูบิชิกล่าวว่าการที่ชาวจีนเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปเป็นรถยนต์พลังงานสะอาด ส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัท ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องระงับการผลิตในช่วงนี้ไปก่อน เพราะตอนนี้บริษัทจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านจากการผลิตรถน้ำมันไปเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งหวังว่าบริษัทจะกลับมาสร้างยอดขายได้อีกครั้ง หลังสร้างรถไฟฟ้าเองได้สำเร็จ
ตัวแทนจากกวางโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป พันธมิตรท้องถิ่นของมิตซูบิชิยืนยันว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง และทางบริษัทก็กำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทอยู่ เช่น ปรับโครงสร้างพนักงานให้เหมาะสมและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับประกันสิทธิทางกฎหมายของพนักงานที่ได้รับผลกระทบ
มิตซูบิชิ มียอดขายสูงสุดประจำปีในจีนช่วงปี 2019 ที่ประมาณ 134,500 คัน แต่หลังจากนั้นยอดผลิตและยอดขายก็ตกลงเรื่อย ๆ ซึ่งในปี 2022 ผลิตรถได้เพียงแค่ 34,575 คัน จนต่อมาเมื่อช่วงเดือนมกราคมของปีนี้ ผลิตไปได้แค่ 1,530 คันเท่านั้นและมาเหลือผลิตได้ 0 คันช่วงเดือนเมษายน
ความล้มเหลวของมิตซูบิชิในประเทศจีนสะท้อนถึงแรงกดดันของเหล่าบริษัทรถญี่ปุ่นที่ปรับตัวได้ช้ามาก ไม่ยอมทำรถไฟฟ้าออกมาขายสักที จนต้องเสียส่วนแบ่งรายได้ไปกับคู่แข่งรายใหม่อย่างเทสลา (Tesla) และบีวายดี (BYD) ซึ่งนอกจากมิตซูแล้ว ทางฮอนด้า (Honda), นิสสัน (Nissan) และโตโยต้า (Toyota) ก็รายได้ลดฮวบลงเหมือนกัน
ที่มา: Japan Times
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส