บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 เรื่อง แจ้งการจดทะเบียนการควบบริษัทย่อย และการหมดสภาพของบริษัทย่อย
โดย TRUE ระบุว่า บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จํากัด หรือ TUC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TRUE ถือหุ้นอยู่ 100% ของทุนที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด และ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จํากัด หรือ DTN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TRUE ถือหุ้นอยู่ 99.99% ของทุนที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด
ได้จดทะเบียนควบบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดภายใต้มาตรา 1238(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565
ผลของการจดทะเบียนควบบริษัทนั้น DTN หมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล ส่วน TUC ยังคงมีสภาพเป็นนิติบุคคล (Surviving Entity) ภายหลังการควบบริษัท และได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบของ DTN ทั้งหมด นับแต่วันที่จดทะเบียนเป็นต้นไป
ทั้งนี้ การควบบริษัทย่อยและการหมดสภาพของบริษัทย่อยดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินงานของ TRUE และ TUC แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ที่ TRUE และ DTAC จะมีการควบรวมกิจการเป็นบริษัทใหม่ ทั้ง TUC และ DTN ต่างเป็นนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตในการถือครองคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จาก กสทช. ดังนั้น การจดทะเบียนควบบริษัทในครั้งนี้ ทำให้ TUC ได้ใบอนุญาตในการถือครองคลื่นความถี่ของ DTN เข้ามาอยู่ภายใต้ TUC อย่างเป็นทางการด้วย
อย่างไรก็ตาม TRUE และ DTAC ยังคงต้องแยกการทำแบรนด์ในด้านตลาดต่อไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขของ กสทช.
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส