เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สรุปสำนวนขององค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ มีมติชี้มูลความผิดต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวกรวม 12 คน ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำสัญญาจ้าง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ซึ่งจะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2572 โดยเป็นการจ้างต่อออกไปอีก 13 ปี หรือให้ไปสิ้นสุดสัญญาพร้อมกันใน 2585
ล่าสุด วันที่ 14 กันยายน 2566 บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ได้ออกมาชี้แจงในฐานะบริษัทแม่ของ BTSC โดยระบุว่า นายคีรี กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ในฐานะกรรมการของ BTSC ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้น บริษัทฯ ยังไม่ได้รับการยืนยันในเรื่องการชี้มูลความผิดดังกล่าวจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1 ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ BTSC และผู้บริหารว่า เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทาง BTSC และผู้บริหารได้มีหนังสือสอบถามเพื่อขอความชัดเจนของพฤติการณ์ในการกระทำความผิดกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลายครั้ง เพื่อให้ BTSC และผู้บริหารได้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างถูกต้องตรงประเด็น แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่ร้องขอ
นอกจากนี้ BTSC และผู้บริหารพบว่า มีข้อเท็จจริงและหลักฐานหลายประการที่ยังไม่ปรากฏในสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้น ในวันที่ 4 กันยายน 2566 ผู้บริหารของ BTSC จึงได้มีหนังสือขอนัดหมายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. เพื่อขอรับทราบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด และชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยวาจาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดแล้วจริง กรณีดังกล่าวจะเป็นการชี้มูลความผิดก่อนที่ BTSC และผู้บริหารจะได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับทราบข้อเท็จจริงและเอกสารต่าง ๆ ที่ถูกต้องครบถ้วนจาก BTSC และผู้บริหารแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะทราบว่า BTSC และผู้บริหารไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่เป็นความผิดตามที่กล่าวหา
ข้อที่ 2 ในทางกฎหมาย หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดตามที่เป็นข่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องจัดส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีมติ และอัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำนวน (เว้นแต่มีการขยายระยะเวลา) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของสำนวนการไต่สวน และพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อ BTSC และผู้บริหารตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่อีกชั้นหนึ่ง
ข้อที่ 3 การมีมติชี้มูลความผิดเป็นกระบวนการทางอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยสัญญาดังกล่าวยังคงมีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทุกประการ อีกทั้งคู่สัญญาภาครัฐยังคงถือเอาประโยชน์ตามสัญญาดังกล่าว โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
ที่มา : บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส