เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) สร้างแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังภาพยนตร์คอนเสิร์ตของเธออย่าง ‘Taylor Swift: The Eras Tour’ สร้างสถิติใหม่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศที่ 96 ล้านเหรียญ (3,488 ล้านบาท) ในช่วงสุดสัปดาห์แรก ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาล แซงหน้าภาพยนตร์คอนเสิร์ต ‘Justin Bieber: Never Say Never’ (2011) ที่ทำรายได้เปิดตัวไว้ 29.5 ล้านเหรียญ (1,071 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 รองจาก ‘Joker’ (2019) ที่ทำไว้ 96.2 ล้านเหรียญ (3,495 ล้านบาท) และยังเป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 7 ของปี 2023 นี้อีกด้วย
ภาพยนตร์คอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour สร้างกระแสได้อย่างมากมายบนโลกโซเชียล หลังมีการแชร์วิดีโอผู้คนที่เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ท่ามกลางบรรยากาศอึกทึกและสนุกสนานของเหล่า Swifties ที่ทั้งร้อง ทั้งเต้น อยู่หน้าจอโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในโรงหนังปัจจุบัน
จากรายงานบอกว่าภาพยนตร์คอนเสิร์ตชุดนี้ช่วยบูสต์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้กระเตื้องขึ้นได้อย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ที่ตอนนี้กำลังซบเซาสุด ๆ เพราะเป็นช่วงที่หนังใหม่กำลังขาดแคลน เพราะเหตุประท้วงของสมาพันธ์นักแสดง SAG-AFTRA ทำให้เหล่าหนังฟอร์มยักษ์ต้องถูกเลื่อนฉายออกไป
เจฟฟ์ บ็อก (Jeff Bock) นักวิเคราะห์จาก Exhibitor Relations บอกว่า “ช่วงเดือนตุลาคมนี้ หากเราไม่มีหนังของ Taylor Swift วงการหนังก็คงจะย่ำแย่มาก เธอเป็นเหมือนแสงสว่างของเรา”
ภาพยนตร์คอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour ได้เขย่าธุรกิจโรงภาพยนตร์ในหลายด้าน ตั้งแต่การกำหนดราคา ช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาดที่แหวกแนว ไปจนถึงมาตรการควบคุมการใช้มือถือในโรงหนังที่ ‘ไม่’ เข้มงวด เพื่อให้เหล่า Swifties ได้ปลดปล่อยกันอย่างเต็มที่
สิ่งที่น่าสนใจคือเธอได้ตัดคนกลางออกและร่วมมือโดยตรงกับ AMC Theatres ซึ่งเป็นเครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แทนที่จะเป็นสตูดิโอใหญ่ ๆ ซึ่งสวิฟต์เป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเพียงไม่กี่รายที่มีความสามารถในการควบคุมอะไรแบบนี้ได้
ที่โรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ แฟน ๆ สามารถร้องเพลง เต้นและสามารถหยิบมือถือมาถ่ายในโรงได้อย่างอิสระ จากปกติที่ต้องมีกฎห้ามใช้มือถือและห้ามเสียงดังในโรงหนัง ทั้งนี้ ก็เพื่อให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องในประวัติศาสตร์ที่ผู้ชมจะทำแบบนี้ได้ จนเกิดเป็นวิดีโอไวรัลบนโซเชียล ที่ผู้คนต่างออกมาเต้นและร้องเพลงกันอย่างครึกครื้น ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาเหล่านั้นได้เจอกับคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน ทำให้เกิดภาพบรรยากาศเหล่านี้ขึ้นมา
เคสนี้จะคล้ายกันกับชุดภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกงานของปีอย่างปรากฏการณ์ ‘Barbenheimer’ กับหนังฟอร์มใหญ่ 2 เรื่องอย่าง ‘Barbie’ กับ ‘Oppenheimer’ ที่เกิดเป็นกระแสเรื่องการแต่งตัว ใครที่มาดู Barbie ก็มักจะแต่งตัวด้วยชุดสีชมพู ส่วนใครมาดู Oppenheimer ก็จะแต่งกายด้วยชุดสีดำ
ภาพยนตร์คอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour จึงเปรียบเป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของสวิฟต์ที่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทั่วโลกได้ คิวต่อไป คงต้องรอดูภาพยนตร์คอนเสิร์ตของ บียอนเซ่ (Beyoncé) กันบ้างแล้ว โดยจะมีกำหนดการฉายในวันที่ 1 ธันวาคม 2023 นี้ ซึ่งก็น่าจะทำให้ภาพบรรยากาศเหล่านี้กลับมาอีกครั้งได้
ที่มา: Yahoo! Finance, Variety
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส