การตัดสินใจซื้อบ้านนับเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน เพราะบ้านถือเป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าสูง และเราต้องอยู่กับบ้านที่ซื้อด้วยไปอีกนาน สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย และอยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกระหว่างบ้านใหม่และบ้านมือสอง บทความนี้ beartaiBRIEF มีคำแนะนำที่น่าสนใจมาฝาก เผื่อเป็นตัวช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เมื่อพูดถึง ‘บ้านใหม่’ เราคงเข้าใจได้ทันทีว่าเดินเข้าโครงการไปดูได้เลย แต่ถ้าบ้านมือสองก็จะมีแหล่งที่มาหลากหลาย เราอาจซื้อจากเข้าของบ้านเดิมโดยตรง หรือซื้อจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนที่ซื้อบ้านเก่ามารีโนเวตเพื่อขายต่อเป็นจำนวนมาก หรืออีกแบบที่นิยมกันมากคือ ซื้อจากสินทรัพย์รอการขาย หรือ NPA (Non Performing Asset) ของธนาคาร รวมถึงการประมูลซื้อจากกรมบังคับคดี
โดยโจทย์หลักในการเลือกระหว่าง ‘บ้านใหม่’ กับ ‘บ้านมือสอง’ ในบทความนี้จะสรุปเป็น 5 ข้อสำคัญที่ผู้ซื้อควรพิจารณา ซึ่งแต่ละเงื่อนไขก็จะมีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป ดังนี้
1. ราคา
- บ้านใหม่ : ราคาสูงกว่า เนื่องจากค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น
- บ้านมือสอง : ราคาถูกกว่า โดยวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างมักมีคุณภาพ แข็งแรง และทนทานกว่า
2. ทำเล
- บ้านใหม่ : ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง อาจอยู่นอกเมืองหรือชานเมือง ห่างไกลบริการขนส่งสาธารณะ และอาจเดินทางไม่สะดวก
- บ้านมือสอง : มีโอกาสเลือกลำเทในตัวเมืองได้มากกว่า ใกล้บริการขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วกว่า
3. ตัวบ้าน / พื้นที่ส่วนกลาง / สภาพแวดล้อม
- บ้านใหม่ : แบบบ้านทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ไลฟ์สไลต์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พื้นที่ส่วนกลางใหม่พร้อมใช้งาน พบปัญหาอุปกรณ์ชำรุดเสียหายได้น้อยกว่า และมีการรับประกันความเสียหายด้านโครงสร้างและอุปกรณ์
- บ้านมือสอง : มีโอกาสพบปัญหากวนใจได้มากกว่า อาทิ หลังคารั่ว น้ำรั่วซึม ปัญหาน้ำท่วมขัง พื้นที่ส่วนกลางเก่า หรืออยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อจะได้เห็นสภาพบ้านและสภาพแวดล้อมที่แท้จริงได้ชัดเจนกว่า
4. โปรโมชัน / สินเชื่อบ้าน
- บ้านใหม่ : บ้านใหม่มักมาพร้อมโปรโมชันและข้อเสนอพิเศษมากมาย รวมถึงธนาคารจะปล่อยกู้ง่ายกว่า เพราะปกติโครงการจะมีธนาคารเป็นพันธมิตรในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเพื่อตกแต่งเพิ่มเติม
- บ้านมือสอง : มีข้อเสนอพิเศษและแพ็กเกจสินเชื่อให้เลือกน้อยกว่า
5. ระยะเวลาเข้าอยู่อาศัย
- บ้านใหม่ : อาจต้องรอโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจะเข้าอยู่ได้
- บ้านมือสอง : สามารถเข้าอยู่ได้เลย อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจมีปัญหาผู้พักอาศัยเดิมไม่ยอมย้ายออก จึงเป็นประเด็นที่ผู้ซื้อบ้านมือสองต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
สำหรับระดับความคุ้มค่าระหว่างบ้านมือหนึ่งกับบ้านมือสองของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้น ผู้ซื้อควรพิจารณาความต้องการของตัวเองเป็นหลักว่า บ้านที่เราเลือกตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริงหรือไม่ หากเช็กแล้วพบว่าลิสต์ทั้ง 5 ข้อ โดยเฉพาะใน 3 ข้อแรกตรงกับความต้องการ ก็ถือว่าเราเลือกบ้านได้คุ้มค่าแล้ว และจะคุ้มค่ายิ่งขึ้นหาก “บ้าน” ทำให้ระดับความสุขของผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส