สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของ ‘ผลโกโก้’ วัตถุดิบหลักในการผลิตช็อกโกแลต ทำให้ต้นทุนของขนมชนิดนี้พุ่งสูงขึ้นในรอบหลายสิบปี โดยเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาซื้อขายโกโก้ในตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3,786 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979 หรือ 44 ปีก่อน
เดวิด แบรนช์ (David Branch) นักวิเคราะห์จากสถาบันอาหารเกษตรของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ราคาโกโก้ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ฤดูการเพาะปลูกต้นโกโก้เผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นและมีฝนตกน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโกโก้หลักของโลก ทั้งนี้ ผลผลิตเมล็ดโกโก้ในประเทศไอวอรีโคสต์, กานา, แคเมอรูน และไนจีเรีย คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 75% ของผลผลิตโกโก้ทั่วโลก
“โกโก้เป็นพืชที่อ่อนไหว จำเป็นต้องเจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสม่ำเสมอ มีความชื้นสูง ฝนตกชุก มีดินที่อุดมไปด้วยไนโตรเจน และมีการป้องกันลม ซึ่งสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยเหล่านี้ไม่พบในฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้ จึงส่งผลให้การเกี่ยวกับโกโก้หยุดชะงักลง และนับเป็นภาวะขาดแคลนโกโก้ติดต่อกันเป็นฤดูกาลที่ 2 แล้ว” แบรนช์กล่าว
สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งดังกล่าวเป็นผลจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งกำลังคุกคามพื้นที่เพาะปลูกโกโก้หลัก ๆ ทั่วโลก และคาดว่าปรากฎการณ์นี้จะดำเนินอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024
‘ผลโกโก้’ ไม่ใช่วัตถุดิบหลักในการผลิตช็อกโกแลตเพียงอย่างเดียวที่มีต้นทุนสูงขึ้น น้ำตาลที่กำลังขาดตลาด และมีราคาสูงได้กลายเป็นปัญหาแก่บรรดาผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ไม่ต่างกับผลโกโก้ เมื่อประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในเทศกาลฮาโลวีนนี้ก็ยิ่งทำให้ราคาของช็อกโกแลตพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อมูลล่าสุดของดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาพบว่า ราคาขนมหวาน ซึ่งรวมถึงช็อกโกแลตในเดือนกันยายน ปี 2023 พุ่งขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ในขณะที่ผลการสำรวจโดยสหพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐอเมริกาพบว่า ในปี 2023 ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่ใช้จ่ายไปกับการซื้อขนมหวานในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีนราว 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (129,600 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (111,600 ล้านบาท) ในปีที่แล้ว
ทางด้าน มาร์ส (Mars) บริษัทผลิตขนมรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นเช่นเดียวกับหลายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้กับผู้บริโภค เพื่อให้พวกเขาสามารถสนุกสนานกับของหวานในราคาที่เอื้อมถึงและคุ้มค่า
ทั้งนี้ มาร์สไม่ได้ปรับขึ้นราคาขนมเลยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2023 ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น
ที่มา : CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส