ยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม หลังจากลดลงติดต่อกันมามากว่า 27 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 5% ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวในตลาดเกิดใหม่ 

Counterpoint Research รายงานปริมาณการขายสมาร์ตโฟนทั่วโลก ของเดือนตุลาคมว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ทำให้เดือนตุลาคมที่ผ่านมากลายเป็นเดือนแรกที่ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกเติบโตเมื่อเทียบเป็นรายปี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 หลังจากที่ยอดขายปรับตัวลดลงติดต่อกัน เป็นระยะเวลายาวนานถึง 27 เดือน

กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลก ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ เช่น ขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบ สินค้าล้นคลัง และพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ใช้สมาร์ตโฟนเครื่องเดิมนานขึ้น 

“ด้วยยอดขายของเดือนตุลาคมที่โตขึ้น ทำให้บริษัทคาดว่า ตลาดสมาร์ตโฟนจะเติบโตเมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ด้วยเช่นกัน และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตลาดสมาร์ตโฟนฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในไตรมาสต่อ ๆ ไป” 

ยุคเฟื่องฟูของตลาดสมาร์ตโฟนครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2564 ก่อนจะชะลอตัวลงจากวิกฤติโควิด-19 และกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง โดยได้แรงหนุนจากตลาดเกิดใหม่ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมไปถึงการกลับมาของหัวเว่ย (Huawei) ที่เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป 5G ในจีน และเทศกาลต่าง ๆ ในอินเดีย

โดยยอดขายสมาร์ตโฟนในจีนของหัวเว่ย (Huawei) เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 37% หลังผู้บริโภคพากันจับจ่ายซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ซีรีส์ Mate 60 ที่ใช้ชิป 5G ซึ่งผลิตโดยบริษัท SMIC หลังถูกทางการสหรัฐฯ แบนการเข้าถึงเทคโนโลยี

รายงานยังระบุอีกว่า ตลาดสมาร์ตโฟนที่พัฒนาแล้ว ยังคงประสบกับภาวะชะลอตัวของยอดขาย อย่างไรก็ตาม ได้ระบุว่าการเปิดตัวของ iPhone 15 ซีรีส์ของแอปเปิ้ล เป็นหนึ่งปัจจัยหลัก ที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของยอดขายในเดือนตุลาคม

ที่มา : CNBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส