สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยอาจกำลังเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) ภายในสิ้นปี 2566 เนื่องจากการเทขายอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ ตลาดหมี (Bear Market) คือภาวะที่ราคาหุ้นต่ำลงต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ปริมาณการซื้อขายก็มีน้อย เปรียบเสมือนการเคลื่อนไหวของหมีที่อืดอาดเชื่องช้า โดยวานนี้ (12 ธ.ค. 66) ดัชนี SET ปิดตลาดที่ระดับ 1,373.92 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง 0.5% ทำให้นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน ดัชนี SET ปรับตัวลดลงแล้วเกือบ 20% แล้ว และใกล้เคียงกับนิยามของตลาดหมีนั่นเอง
รายงานข่าวระบุว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีผลประกอบการแย่ที่สุดในโลกของปีนี้ และกำลังเผชิญกับภาวะที่กองทุนต่างชาติเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า และความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตลอดปี 2566 นี้ มีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยแล้ว 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 201,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่เอเชีย
สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2567 นั้น สิ่งที่ต้องจับตามองคือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 500,000 ล้านบาท ของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในปีหน้าได้ในระยะสั้น ๆ ขณะที่การร่วงลงของดัชนี SET ก็ทำให้เกิดโอกาสในการซื้อที่ดี เนื่องจากราคาหุ้นได้ร่วงลงมากกว่าระดับพื้นฐานแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส