วันพุธที่ 27 ธันวาคม มาร์ติน เกล็นน์ (Martin Glenn) ผู้พิพากษาคดีล้มละลายของสหรัฐฯ ในแมนฮัตตัน ตัดสินให้ Celsius Network สามารถเปลี่ยนธุรกิจไปเป็นการขุดบิตคอยน์ได้ หลังจากถูก กลต. สหรัฐฯ ได้คัดค้านในบางแง่มุมของแผนดังกล่าว โดยชี้ว่าบริษัทสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจไปจากแผนล้มละลายที่ได้รับอนุมัติไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเจ้าหนี้และลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบที่แย่ลงภายใต้การปรับโครงสร้างใหม่นี้
เดือนกรกฎาคม 2022 Celsius ได้ยื่นขอล้มละลายตามกฎหมายล้มละลายของสหรัฐฯ Chapter11 หลังจากการล่มสลายของ Terra และเดือนพฤศจิกายน 2023 ศาลล้มละลายนิวยอร์กได้อนุมัติแผนการปรับโครงสร้างใหม่ของ Celsius เพื่อช่วยปลดล็อกคริปโทมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (69,802 ล้านบาท) จ่ายคืนให้กับเจ้าหนี้ แต่ถูก กลต. สหรัฐฯ และกระทรวงยุติธรรมคัดค้านบางส่วนของแผน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการสเตกคริปโท จนทำให้ Celsius ได้ยื่นขอปรับแผนเหลือแค่การขุดบิตคอยน์
การปรับแผนธุรกิจใหม่ดังกล่าว ได้ส่งผลให้ผู้ประมูลบางรายที่ได้รับเลือกให้จัดการบริษัทใหม่ต้องถูกแยกออกไป โดยต้องปล่อยให้ US Bitcoin Corp บริษัทขุดบิตคอยน์ที่เป็นเจ้าหนี้ได้รับผิดชอบธุรกิจเหมืองบิตคอยน์อย่างเต็มที่ ซึ่งเดิมทีกลุ่มผู้ประมูลที่จัดการธุรกิจ Celsius ซึ่งเรียกรวมกันว่า Fahrenheit ประกอบด้วย US Bitcoin Corp, Arrington Capital, Proof Group, Steven Kokinos และ Ravi Kaza
ก่อนหน้านี้เมื่อ 30 พฤศจิกายน ผู้พิพากษาเกล็นน์ได้โต้แย้งเกี่ยวกับแผนการขุดบิตคอยน์ว่า ไม่ใช่ข้อตกลงที่เจ้าหนี้โหวตลงมติ แต่ในที่สุดก็ได้อนุมัติโดยไม่ต้องโหวตลงมติใหม่ ทั้งนี้ Celsius คาดว่าจะออกจากการล้มละลายในต้นปี 2024
แผนการล้มละลายที่ปรับลดขนาดลงของ Celsius ซึ่งถูกปฏิเสธโดย กลต. สหรัฐฯ จะทำให้บริษัทมีคริปโทเพิ่มขึ้น 225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (7,852 ล้านบาท) ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นเงินทุนในสายธุกิจใหม่ นอกจากนี้บริษัทจะสามารถคืนคริปโทให้กับลูกค้าได้มากขึ้น และลูกค้าจะได้รับส่วนแบ่งจากธุรกิจการขุดบิตคอยน์ใหม่ด้วย
ที่มา : reuters.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส