ความสามารถของสมาร์ตโฟนและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในปัจจุบัน ทำให้ความจำเป็นในการพกกระเป๋าเงิน เงินสด หรือแม้แต่บัตรพลาสติกต่าง ๆ ก็ลดน้อยลงไปด้วย ปัจจุบัน สมาร์ตโฟนได้แปลงร่างเป็นกระเป๋าเงินของคนยุคดิจิทัล และหลายคนพกเงินสดติดตัวไว้เพียงเล็กน้อย เผื่อกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถสแกนจ่ายได้จริง ๆ เท่านั้น

ต้องบอกว่าพัฒนาการของแอปพลิเคชัน Mobile Banking ในประเทศไทยมีความก้าวหน้ามากขึ้น ธนาคารแต่ละแห่งแข่งขันกันออกฟีเจอร์ล้ำ ๆ มาเอาใจผู้ใช้งาน โดยเฉพาะการ ‘กดเงินไม่ใช้บัตร’ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในวงกว้างจนหลายคนถึงขั้นยกเลิกบัตรเดบิต เพราะรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว ในขณะที่เด็ก ๆ ที่เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารเป็นครั้งแรก ๆ ก็เลือกที่จะไม่รับบัตรเดบิตแล้ว เพราะไม่อยากพกพาให้ยุ่งยาก และช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมบัตรได้อีกด้วย

แล้วทำไมหลายคนถึงยังคงมีบัตรเดบิตไว้ ? ในเมื่อมีฟีเจอร์กดเงินไม่ใช้บัตรแล้ว ก็ต้องบอกว่าแต่ละคนมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางคนไม่ได้สนใจเรื่องการใช้งานมากนัก แต่ชื่นชอบในลวดลายของบัตรเดบิต เช่น ลายคาแรกเตอร์ที่ชื่นชอบหรือไอดอลคนโปรด คนกลุ่มนี้ก็อยากจะทำบัตรเดบิตเพื่อเก็บสะสมไว้นั่นเอง

ในขณะที่บางคนต้องการบัตรเดบิตที่พ่วงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น บัตรเดบิตที่พ่วงกับบริการรถไฟฟ้า ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการซื้อบัตรโดยสารหรือเติมเงินบัตรโดยสาร รวมถึงสะสมคะแนนเพื่อใช้เป็นส่วนลด หรือแลกรับของรางวัลสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ สำหรับสายช้อปออนไลน์ที่มีการผูกบัตรเดบิตไว้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็มีโอกาสรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ หรือบัตรเดบิตที่พ่วงบริการประกันภัยก็เพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มความอุ่นใจในการใช้บัตรได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

นอกจากนี้ บัตรเดบิตบางประเภทยังสามารถใช้งานในต่างประเทศได้อีกด้วย โดยหลายธนาคารหยิบยกจุดนี้มาพัฒนาบัตรเดบิตของตัวเองให้กลายเป็นบัตรแลกเงินผ่านการใช้งานร่วมกับ Mobile Banking เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักเดินทาง

ทั้งนี้ แต่ละธนาคารก็พยายามสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้หลากหลาย เพื่อทำให้ผู้ใช้งานบัตรเดบิตได้รับสิทธิประโยชน์ตามการใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่ อาทิ การซื้อสินค้า ร้านอาหาร การเดินทางและท่องเที่ยว บันเทิง กีฬา ไอที สุขภาพและความงาม เป็นต้น ผู้ใช้งานบัตรเดบิตจึงสามารถเลือกใช้บัตรที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น ไม่ได้จำกัดไว้แค่การกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเท่านั้น

นอกจากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แล้ว หลายคนรู้สึกว่าการมีบัตรเดบิตไว้คือการ ‘กันเหนียว’ ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถใช้งาน Mobile Banking ได้ เช่น สมาร์ตโฟนแบตหมด ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือไม่มีตู้เอทีเอ็มแบรนด์เดียวกับ Mobile Banking ที่เราใช้งาน

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของการทำบัตรเดบิตคือ ‘ค่าธรรมเนียม’ ซึ่งหลายธนาคารเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไปจนถึงหลักพันบาท ซึ่งแตกต่างออกไปตามสิทธิประโยชน์และคุณสมบัติของบัตรเดบิตแต่ละประเภท เช่น ลายหน้าบัตรแบบพิเศษก็จะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าลายธรรมดา หรือบัตรที่พ่วงบริการประกันภัยก็จะมีค่าธรรมเนียมก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

แล้วชาว beartai ยังคงทำบัตรเดบิตกันอยู่หรือไม่ ? หรือก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด 100% แล้ว ลองมาแบ่งปันประสบการณ์การใช้งานบัตรเดบิต หรือเหตุผลที่คุณเลิกใช้บัตรเดบิตแล้วกันได้นะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส