การเงินเป็นหัวข้อที่มักถูกละเลยในการศึกษาทั่วไป แต่มีความสำคัญในการเข้าใจวิธีที่คนรวยสร้างความมั่งคั่ง เพราะคนรวยที่มีอำนาจอยากให้คุณไม่รู้ว่า พวกเขาหาเงินได้มากมาย และมีชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวยได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นมาเรียนรู้เคล็ดลับของพวกเขากัน
เงินเฟ้อซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ
‘Inflation is daylight robbery’ ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึง การที่ผู้คนมากมายไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เงินเฟ้อนั้นแอบลดกำลังซื้อของเงินเราลงเรื่อยๆ
แม้กระทั่ง ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Fed) ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อได้ทุกครั้ง และสิ่งที่เศรษฐีแทบทุกคนรู้เป็นอย่างดี แม้เงินเฟ้อจะทำให้มูลค่าของเงินในกระเป๋าของพวกเขาลดลง อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถป้องกันมันได้
ดังนั้นจึงควรมีกลยุทธ์ในการรับมือเงินเฟ้อ โดยอย่างน้อยที่สุด ทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับพอร์ต เช่น หลีกการก่อหนี้เสีย หรือนำเงินออมไปลงทุน เพราะคุณจะไม่มีวันรวยได้ หากคุณไม่เรียนรู้ที่จะเข้าใจกับภาวะเงินเฟ้อแบบที่คนรวยทำ
เรื่องโกหกของดอกเบี้ยทบต้น
อัตราดอกเบี้ยทบต้นนั้นไม่ได้หมายถึง เงินฝากในธนาคาร การทำเช่นนี้มิอาจทำให้สร้างความร่ำรวย เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจากบัญชีออมทรัพย์ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้
จริงๆ แล้ว compound interest ไม่ใช่ดอกเบี้ยทบต้น แต่คือ ผลตอบแทนทบต้น ต่างหากที่ทรงพลัง
พวกเศรษฐีจึงไม่นิยมเก็บเงินสดในรูปแบบของการฝากธนาคาร จะเน้นไปที่การลงทุนหากต้องการความมั่งคั่ง อาทิ หุ้นปันผล อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ฯลฯ แต่หากต้องการใช้เงินสดที่รวดเร็ว ก็จะใช้บัญชีที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยสูง หรือลงทุนใน money market fund (กองทุนตลาดเงิน/ตราสารหนี้ระยะสั้น)
อย่าติดกับดักสถานะทางสังคม
หนี้ผู้บริโภคคือสิ่งที่ผลักดันให้เกิดหนี้ก้อนใหญ่ที่จะตามมา โดยส่วนใหญ่แล้วจะมาจากซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เสื้อผ้าหรูหรา รถสปอร์ต กระเป๋าแบรนด์เนม รายการทั้งหมดเหล่านี้ใช้เพื่อแสดงสถานะทางสังคม ที่ป่าวประกาศว่า “ฉันดีกว่าคุณ.” “ฉันเจ๋งกว่าคุณ.” แค่นั้น
แต่การเป็นหนี้ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป เพราะหนี้ที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ก็ดี หนี้คือการก่อหนี้ ช่วยให้คุณสามารถยืมเงินได้ในราคาปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากราคาที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ในอนาคตได้
แน่นอน คุณจำเป็นต้องรู้ว่า ตอนนี้กำลังซื้อสินทรัพย์ใด? และมั่นใจว่าสินทรัพย์นี้จะขึ้นในระยะยาวหรือไม่? ข้อมูลในอดีตสามารถเป็นประโยชน์ได้ รวมทั้งความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์หรือแนวโน้มเทคโนโลยีก็ช่วยได้เช่นกัน
การมีรายได้หลายทางดีที่สุด!!
ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ไหน การมีรายได้แค่ทางเดียวนั้นเสี่ยงที่สุด
รายได้ทุกๆ ช่องทางนั้นมีความเสี่ยงในรูปแบบที่ต่างกัน ยิ่งถ้าเรามีรายได้มาจากงานประจำช่องทางเดียว นั้นยิ่งเท่ากับเราแบกรับความเสี่ยงที่มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
การมีรายได้หลายทางนำมาซึ่งแหล่งเงินที่มากขึ้น จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งยวด
เศรษฐีเก่งเรื่อง ‘ภาษี’
ภาษีคือเงินลงทุนของคุณ ใช้ภาษีให้เป็นประโยชน์
ภาษี คือ สิ่งที่ประชาชนผู้มีรายได้ทุกคน ต้องจ่ายให้กับภาครัฐทุกปี แต่รู้หรือไม่ว่า เราสามารถรวยขึ้นได้ จากการวางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
คนรวยสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ แล้วขายในภายหลังเพื่อชำระภาษี พวกเขาเรียนรู้ระบบภาษี และใช้ประโยชน์จากระบบภาษีอย่างถูกกฎหมาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธุรกิจที่มีบุคคลเพียงคนเดียวจึงกลายเป็นเทรนด์สำคัญ
อย่างไรก็ตามอีกเทคนิคที่ขาดไม่ได้ ‘ใช้น้อยกว่าที่หามาได้’ เชื่อว่ากฏนี้ ใครๆ ก็รู้แต่น้อยคนที่จะทำได้ เนื่องจากคนเรามีแนวโน้มที่จะปรับรายจ่ายของตัวเองให้สูงขึ้นไปตามรายได้เสมอ
ทำให้พอได้เงินเดือนเยอะขึ้น นั่งรถเมล์ไม่สะดวกแล้ว ผ่อนรถดีกว่า แล้วร้านอาหารข้างทางที่เคยทาน เริ่มรู้สึกเบื่อ ขอไปทานร้านในห้างบ้าง แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่กลับใช้จ่ายมากขึ้น จนกลายเป็นนิสัยบ่อยๆ เข้า ก็กลายเป็นใช้จ่ายมากเกินกว่าที่หาได้ จนกระทั่งกลายเป็นหนี้
สุดท้ายขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และไม่ลืมที่จะศึกษาหาความรู้ วางแผนการเงิน รู้จักนำเงินออมมาลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เริ่มก่อนได้เปรียบ ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงและภาระรับผิดชอบต่างๆก็เพิ่มขึ้นด้วย