ในเดือนมีนาคม 2567 จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทาง GDP 5% และเริ่มต้นได้ดีตามคาดในช่วงไตรมาสแรก โดย GDP เติบโตมากถึง 5.3% มากกว่าไตรมาสที่สี่ของปี 2566 ดีกว่าการคาดการณ์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ทำนายว่า GDP ในไตรมาสแรกของจีนน่าจะขึ้นเพียง 4.6%
แม้ว่าสิ่งนี้อาจดูน่าประทับใจสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ แต่สำหรับจีนแล้ว นี่คือการหยุดชะงัก และเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542
ผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจในจีนพยายามผลักดันแนวทางในการรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น วิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ อุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และหนี้ภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาใหญ่และรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้จีนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก นี่คือผลกระทบของการเติบโตที่รวดเร็วเกินไปของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น 6.1% ภาคเกษตรกรรมเติบโตขึ้น 3.8% และภาคบริการเติบโตขึ้น 5% แม้ว่าบางภาคส่วนจะไม่บรรลุความคาดหวัง เช่น ส่วนการค้าปลีกเติบโตเพียง 3.1% ต่ำกว่าที่คาดไว้ 4.6% แต่ทุกอย่างก็ยังคงไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตามรายงานของ NBS ของจีน
ณ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากประเทศจีนได้เปิดเผยนโยบายการคลังและการเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้จ่าย 1,800,000 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ