วันอังคารที่ 30 เมษายน ริชาร์ด โจนส์ (Richard Jones) ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐฯ ณ ศาลรัฐบาลกลางของซีแอตเทิล ได้ตัดสินให้ ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao : CZ) ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของไบแนนซ์ (Binance) รับโทษจำคุก 4 เดือน ในโทษฐานอนุญาตให้อาชญากรและบริการที่ผิดกฎหมายจากตลาดมืดฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทไบแนนซ์
เดือนพฤศจิกายน 2023 จ้าวได้ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของไบแนนซ์ และสารภาพว่ากระทำผิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐฯ รวมทั้งไบแนนซ์ได้ตกลงยอมความจ่ายค่าปรับมูลค่า 4,300 ล้านเหรียญ (151,467 ล้านบาท) กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อยุติข้อกล่าวหาทางอาญาที่ต้องใช้เวลาในสอบสวนนานหลายปี ซึ่งเกี่ยวกับการสนับสนุนให้ผู้ใช้แพลตฟอร์มหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จ้าวตกลงจ่ายค่าปรับ 50 ล้านเหรียญ (1,758 ล้านบาท) และห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินงานของไบแนนซ์ทั้งหมด ซึ่งในตอนนั้นอัยการได้เสนอให้เขารับโทษสูงสุดของข้อหาที่ 18 เดือน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการสหรัฐฯ ได้เสนอให้ลงโทษจำคุกจ้าวเพิ่มเป็น 36 เดือน หรือ 3 ปี
การตัดสินคดีของจ้าวเกิดขึ้นประมาณ 1 เดือน หลังจากคดีของ ซามูเอล แบงก์แมน-ฟรายด์ ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท FTX และบริษัทการค้า Alameda Research ได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 25 ปี รวมทั้งจะถูกควบคุมความประพฤติเมื่อมีการปล่อยตัวเป็นเวลา 3 ปี และต้องจ่ายค่าปรับ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (399,850 ล้านบาท) ในโทษฐานยักยอกเงินของลูกค้าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ฝากไว้กับ FTX การฉ้อโกงนักลงทุนใน FTX มากกว่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (61,795 ล้านบาท) และใน Alameda อีกกว่า 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (47,255 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม นิตยสาร Forbes ได้แสดงชื่อจ้าวอยู่ในอันดับมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,225,389 ล้านบาท) ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโทและนักกฎหมายได้ให้ความเห็นกับสำนักข่าว CNBC ว่าจ้าวได้เคลียร์คดีกับรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างลงตัวโดยจ่ายค่าปรับตามที่กำหนดไว้ ซึ่งทรัพย์สินอันมากมายของเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร และเมื่อออกมาจากคุกก็จะยังคงอู้ฟู่เหมือนเดิม