กระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เห็นชอบปรับปรุงเงื่อนไขกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG ให้จูงใจนักลงทุนมากขึ้น โดยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นตลาดทุนแทนการฟื้นกองทุน LTF
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2024/06/image-36-3-1600x900.jpg)
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 มีการแถลงข่าวร่วม 3 หน่วยงานเกี่ยวกับ “การขับเคลื่อนตลาดทุน” อันประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลง พร้อมด้วยนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
โดยมีแนวทางการส่งเสริมการออมการลงทุน ด้วยการปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีและลดระยะเวลาการถือครอง ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการส่งเสริมให้เกิดการออม ผ่านการลงทุนในตลาดทุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ระดมทุนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
อัปเดตกองทุน Thai ESG หลังปรับเงื่อนไข
กองทุน Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยกองทุน Thai ESG นั้น มีนโยบายการลงทุนที่เน้นไปที่หุ้นและตราสารหนี้ของบริษัทไทยที่มีความยั่งยืนตามหลัก ESG ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ดังนี้ E (Environmental) : สิ่งแวดล้อม, S (Social) : สังคม, G (Governance) : บรรษัทภิบาล
สิทธิประโยชน์ของการลงทุนในกองทุน Thai ESG ได้แก่
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี (เงื่อนไขคงเดิม)
- ไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ (เงื่อนไขคงเดิม)
- ลงทุนที่ให้วงเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี
- ระยะเวลาการลงทุนต้องถือครองกองทุนไว้อย่างต่ำ 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ ลดลงเหลือเพียง 5 ปีจากวันที่ซื้อ
- นโยบายลงทุนต้องลงทุนมากกว่า 80% ของ NAV ดังนี้ 1. หุ้นใน SET/MAI ที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (ESG) 2. ESG Bond 3. Green Token และเพิ่มเติม 4. หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2024/06/image-36-1.jpg)
ผลกระทบของกองทุน Thai ESG ต่อตลาดหุ้นไทย
การปรับเงื่อนไข Thai ESG นี้คาดหวังว่า การขยายวงเงินจะส่งผลต่อดัชนี SET ที่จะปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นทางเลือกในการออมให้กับกลุ่มคนอายุน้อย อาชีพอิสระ และกลุ่มคนที่ลงทุนในวงเงินเกษียณ (เช่น RMF) ไม่เต็มจำนวน นอกจากนี้ ยังคาดหวังการส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลการสร้างความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น
และจากข้อมูลของ MSCI ที่ผ่านมาพบว่า บริษัทที่มี ESG Score สูง มักจะมีความสามารถในการทำกำไรและ/หรือสร้างอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่า มีความผันผวนของกำไรที่น้อยกว่า และมีราคาหุ้นที่มีความผันผวนไม่มากเท่าบริษัทที่มี ESG Score ต่ำกว่า
ดังนั้น จึงคาดว่าในอนาคต ESG จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น และบริษัทที่มี ESG สูง จะได้รับการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ในระดับที่สูงกว่าอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว