หลังช่วงโควิด-19 หลายประเทศยังคงเผชิญกับกระแสการใช้จ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้คนเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ขณะที่ในจีนกลับเกิดปรากฏการณ์ตรงกันข้าม นั่นคือ ‘การออมเงินอย่างบ้าคลั่ง’ แทนที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คนรุ่นใหม่จีนกลับหันมาประหยัดอย่างหนัก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา
ซึ่งคล้ายกับแนวคิด FIRE (Financial Independence Retire Early Movement) คือการหารายได้ให้มากที่สุด แล้วนำมาออมเงินให้ได้เยอะที่สุดถึง 90% ของรายได้ เพื่อให้ถึงเป้าหมายเกษียณอายุโดยเร็วที่สุด
โดยกระแสการออมแบบสุดโต่งนี้ กำลังเป็นที่นิยมบนโซเชียลมีเดียจีน โดยวัยรุ่นจีนตั้งเป้าหมายการออมรายเดือนที่สูงลิ่ว ตัวอย่างเช่น สาววัย 26 ปีที่ใช้ชื่อว่า ‘Little Zhai Zhai’ จำกัดค่าใช้จ่ายรายเดือนไว้ที่เพียง 300 หยวน (ประมาณ 1,500 บาท) โดยในวิดีโอล่าสุด เธอแสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมค่าอาหารรายวันไว้ที่เพียง 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) เท่านั้น หากมองกลับมาที่ไทยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถซื้อข้าวอาหารตามสั่งได้ถึง 1 จานด้วยซ้ำ
บางคนหาคู่ออมเงินบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างกลุ่มที่คอยกระตุ้นให้สมาชิกยึดมั่นในเป้าหมายการออม และอีกหลายคนยังประหยัดด้วยการไปทานอาหารที่โรงอาหารชุมชนสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งขายอาหารสดในราคาถูก
Shaun Rein กรรมการผู้จัดการของ China Market Research Group เผยว่า “ในอดีต วัยรุ่นจีนในช่วงทศวรรษ 2010 มักจะใช้เงินมากกว่าที่หาได้ และกู้เงินมาซื้อของหรูหรา เช่น กระเป๋า Gucci และ iPhone แต่ปัจจุบันวัยรุ่นจีนกลับเริ่มออมเงินมากขึ้น” แล้วยังมองว่า การที่คนรุ่นใหม่จีนหันมาประหยัดอย่างหนักนี้ อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมาใช้จ่ายอย่างคึกคักอีกครั้ง
และสาเหตุที่คนรุ่นใหม่จีนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้นเกิดจากอะไร? Christopher Beddor รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจีนของ Gavekal Dragonomics ให้ข้อมูลว่า เพราะคนหนุ่มสาวสัมผัสได้เหมือนกับทุกวัย เกี่ยวกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ดีขนาดนั้น
แม้ว่า GDP ไตรมาสแรกของจีนจะเติบโตเกินคาดที่ 5.3% แต่การคาดการณ์ยังชี้ว่าการชะลอตัวจะยังคงดำเนินต่อไป โดย IMF คาดว่าจะเติบโต 4.5% ในปี 2568
นอกจากนี้ ตลาดแรงงานที่ตึงตัวยิ่งสร้างความยากลำบากให้กับคนรุ่นใหม่ อัตราการว่างงานในกลุ่มอายุ 16-24 ปีอยู่ที่ 14.2% ในเดือนพฤษภาคม สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 5% มาก ขณะที่มีการสำรวจโดย MyCOS พบว่าเงินเดือนเฉลี่ยรายเดือนของผู้ที่มีปริญญาตรีได้รับในปี 2023 อยู่ที่ 6,050 หยวน (ประมาณ 30,000 บาท) เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน
ดังนั้น เทรนด์การออมเงินไว้ก่อนของคนรุ่นใหม่ จึงกลายเป็นอีกทางเลือกจำเป็น เมื่ออนาคตยากที่จะคาดการณ์การใช้จ่ายได้