หากติดตามข่าวกันมาตลอด ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2563 บริษัท GULF ถือหุ้นในบริษัท INTUCH อยู่แล้ว จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนบริษัท Singtel ขณะที่บริษัท INTUCH เป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANCE หรือ AIS ในสัดส่วน 40.44% และในปี 2565 GULF ตั้งบริษัทลูกอย่างบริษัท กัลฟ์ เวนเชอร์ส จำกัด (GE) ไปซื้อหุ้น THAICOM ในสัดส่วน 41.13% จาก INTOUCH มาอีก

จนกระทั่ง ในวันที่ 16 ก.ค. 2567 เกิดข่าวใหญ่ในวงการตลาดหุ้นไทย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) ประกาศควบรวมกิจการ จัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) เหลือแค่บริษัทเดียวเท่านั้น

โดยสรุปให้เข้าใจง่าย นี่คือดีลบริษัท A+B ได้ออกมาเป็นบริษัท C แล้วผู้ถือหุ้นเดิมสามารถนำหุ้นของ GULF หรือ INTUCH มาแลกเป็นบริษัทใหม่ได้ ดังนี้

  • 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo
  • 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ที่ GULF ถือหุ้น INTUCH ก่อนหน้านี้)

ซึ่งการควบรวมครั้งนี้ บริษัทใหม่ (NewCo) จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer หรือ VTO) ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ในสัดส่วน 36.25% กำหนดไว้ที่ราคา 216.3 และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (THCOM) ในสัดส่วน 58.86% กำหนดไว้ที่ราคา 11.0

ส่งผลให้ราคาของทั้งหุ้น ADVANC กับ THCOM อาจจะอยู่แบบคงที่หรือมีการเคลื่อนไหวไม่มาก เนื่องจากถูกกดดันจากราคา Tender Offer ที่ต่ำกว่าตลาดซื้อขายเสียอีก

ใครได้ประโยชน์สำหรับดีลนี้บ้าง?

โดยมีผู้ที่ได้ประโยชน์ในระยะสั้น คือผู้ถือหุ้น INTUCH รวมถึงบริษัท SINGTEL ที่ถือสัดส่วน 23.31% ซึ่งจะได้รับการจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสมของบริษัท จำนวน 4.5 บาทต่อหุ้น

ส่วนบริษัทใหม่ (NewCo) จะสามารถตัดสินใจในการบริหาร ADVANC และ THCOM ได้โดยตรง ทำให้ได้ประโยชน์ 4 ด้าน ดังนี้

  1. บริษัทใหม่จะเพิ่มความคล่องตัวด้านการบริหารจัดการ วางกลยุทธ์ทางธุรกิจชัดเจนขึ้น และลดความซับซ้อนหลังจากการปรับโครงสร้างควบรวม
  2. บริษัทใหม่จะมีการเพิ่มช่องทางกระจายความเสี่ยงจากแหล่งที่มาของรายได้และกำไร
  3. บริษัทใหม่นี้จะได้รับ Cash Flow ที่เข้ามามากขึ้น จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 2 เท่าจากการถือหุ้น ADVANC โดยตรงที่เพิ่มขึ้น จากเดิม GULF ต้องถือหุ้น ADVANC ผ่าน INTUCH เหลือบริษัทใหม่ถือหุ้น ADVANC เดียวที่ 40.44%
  4. และบริษัทใหม่นี้จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง ทำให้ Credit rating ดีขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินลดลงด้วย

อีกทั้งนักวิเคราะห์หลายคนเห็นถึงการเติบโตระยะกลาง-ระยะยาวที่น่าสนใจจากเชิงโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ที่รวมธุรกิจพลังงานและโทรคมนาคม หรือธุรกิจอย่าง Virtual Bank, Cloud, Data Center อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ New S curve ใหม่ที่บริษัท GULF มองหาก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไปว่าจะสามารถเปลี่ยนจากบริษัทที่อิ่มตัวด้านพลังงานกลับมาเติบโตกับธุรกิจใหม่ได้หรือไม่