เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา Temu ประกาศเปิดตัวแบบเงียบ ๆ ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดแห่งที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์ขายของตัดราคา
โดย Temu เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ของ Pinduoduo อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ที่ขายสินค้าเหมือนกับคู่แข่ง แต่มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุน ด้วยการซื้อแบบเหมาจำนวนมากจากผู้ผลิตโดยตรง ทำให้ขายสินค้าได้ในราคาที่ถูกมาก ๆ
The Low Down (TLD) บริษัทให้คำปรึกษาทางนวัตกรรมและสตาร์ตอัปในสิงคโปร์ บอกว่า การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นประมาณ 1 ปีหลังจากเปิดตัวในมาเลเซียและฟิลิปปินส์ เช่นเดียวกับการเปิดตัวในตลาดครั้งก่อน ๆ เว็บไซต์ของ Temu ในประเทศไทยจะมีส่วนลดสำหรับเปิดตัวครั้งใหญ่สูงสุดถึง 90%
สินค้าที่วางขายในเว็บไซต์ Temu จะมีหลากหลายที่มาพร้อมกับรีวิวคะแนนจากทั่วโลก และใช้เวลาในการจัดส่งไม่เกิน 5 วัน จากกวางโจวมาถึงกรุงเทพฯ แต่สินค้าส่วนใหญ่ในเว็บไซต์ประเทศไทยนั้นยังไม่มีแบรนด์เนม
ก่อนหน้านี้ Temu ตีตลาด E-commerce สหรัฐฯ ได้สำเร็จ เพราะราคาขายบนแพลตฟอร์มที่ต่ำกว่า Amazon 2-3 เท่า มีสินค้าราคาถูก และแคมเปญหาเพื่อนซื้อร่วมกันถูกลงหรือได้รับของฟรี ทำให้แอปฯ Temu ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดอันดับ 1 ของสหรัฐฯ ยาวนานถึงเจ็ดเดือน ด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 70 ล้านครั้ง
ตลาดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของไทย ในปี 2023 มีเจ้าตลาดอย่าง Shopee ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด 49% ตามมาด้วย Lazada 30% และ TikTok Shop 21%
การเข้ามารุกตลาดไทยครั้งนี้ของ Temu จึงน่าจับตามองว่าจะสร้างผลกระทบต่อแพลตฟอร์มที่ครองตลาดเดิมได้หรือไม่ เข้าถึงใจผู้บริโภคในไทยได้หรือเปล่า รวมถึง Temu จะรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากเพียงใด