วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน บิตคอยน์ (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้พุ่งขึ้นสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 89,982 เหรียญสหรัฐฯ (3,135,062 บาท) เพิ่มขึ้นมาประมาณ 30% นับจากวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผลที่ออกมา โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ผู้ที่มีนโยบายเป็นมิตรกับคริปโทฯ สามารถคว้าชัยชนะจะได้กลับสู่ทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ตั้งแต่นั้นมาราคาบิตคอยน์ก็วิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนวันนี้เกือบแตะระดับ 90,000 เหรียญสหรัฐฯ (3,135,689 บาท) ล่าสุดเวลา 23.00 น. ราคาได้ลดลงมาอยู่ที่ 86,565.99 เหรียญสหรัฐฯ (3,017,430 บาท)

การพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์เกิดขึ้นนับจากผลคะแนนการเลือกตั้งออกมา นั่นเป็นเพราะมีความคาดหวังว่าการเข้ามานั่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ซึ่งจะสนับสนุนบิตคอยน์ตามที่เคยหาเสียงไว้ คือการทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นเมืองหลวงแห่งคริปโทของโลก และจะสำรองบิตคอยน์ไว้ในคลังของประเทศด้วย แม้ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่กระแสของทรัมป์ก็ได้ผลักดันให้หุ้นของธุรกิจเหมืองบิตคอยน์และราคาคริปโทฯ พุ่งขึ้นไปก่อนแล้ว

นักวิเคราะห์เผยว่ามีโอกาสที่บางประเทศจะซื้อบิตคอยน์ล่วงหน้าไปก่อนสหรัฐฯ และเหมืองขุดบิตคอยน์จะแห่เข้ามาจดทะเบียนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าบริษัทเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ

นักลงทุนมองว่าตลาดคริปโทฯ กำลังเหมือนท้องฟ้าที่เริ่มมีความสดใส เพราะการเข้ามาของทรัมป์จะช่วยลดการตรวจสอบที่เข้มงวดของ กลต. สหรัฐฯ ให้หมดไป และมั่นใจได้เลยว่าทรัมป์จะสนับสนุนคริปโทฯ อย่างแน่นอน เพราะเดือนกันยายนที่ผ่านมา เขาพึ่งได้เปิดตัว World Liberty Financial เครือข่ายการเงินแบบกระจายอำนาจที่ออกโทเคน พร้อมช่วยให้ผู้ใช้สามารถฝากและกู้ยืมโทเคนได้ด้วย

ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นของเทสลาได้เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เพราะเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ในฐานะที่ อีลอน มัสก์ ได้สนับสนุนผู้สมัครพรรครีพับลิกันอย่างเต็มที่