ในปี 2568 สำนักงานประกันสังคมเตรียมยกระดับสิทธิประโยชน์และขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนที่ปัจจุบันมีมากถึง 24.8 ล้านคน ครอบคลุมมาตรา 33, 39 และ 40 โดยสถานภาพปัจจุบันกองทุนประกันสังคม มีเงินสมทบสะสม กว่า 2.6 ล้านล้านบาท ผลตอบแทนสะสมจากการลงทุน 989,740 ล้านบาท และในปี 2568 มีการปรับสิทธิเพิ่มเติมในหลายด้าน พร้อมเดินหน้าพัฒนากองทุนประกันสังคมและการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ

เงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน

นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 ที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มจากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน โดยผู้ประกันตนที่เคยได้รับเงินสงเคราะห์อยู่แล้วไม่ต้องดำเนินการใหม่ เนื่องจากระบบจะปรับสิทธิให้โดยอัตโนมัติ

รักษาโรคมะเร็งได้ทุกโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ

ตั้งแต่ต้นปี 2568 ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งในโรงพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โดยไม่ต้องจำกัดเฉพาะโรงพยาบาลประกันสังคมเดิม โครงการนี้เพิ่มการเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การวินิจฉัยไปจนถึงการรักษา รวมถึงการใช้ยามุ่งเป้าสำหรับโรคมะเร็ง

ขยายโรงพยาบาลคู่สัญญาอีก 7 แห่ง

อัปเดตปี 2568 มีโรงพยาบาลใหม่เข้าร่วมเป็นคู่สัญญาประกันสังคมเพิ่มอีก 7 แห่ง ได้แก่

  1. โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (กทม.)
  2. โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ (สุราษฎร์ธานี)
  3. โรงพยาบาลราชวิถี 2 (ปทุมธานี)
  4. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน (กทม.)
  5. โรงพยาบาลวัฒนแพทย์สมุย (สุราษฎร์ธานี)
  6. โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา 2 (ชลบุรี)
  7. โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (สระบุรี)

ส่งผลให้มีโรงพยาบาลคู่สัญญารวมทั้งสิ้น 271 แห่ง เป็นโรงพยาบาลรัฐบาล 174 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 97 แห่ง โดยผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลสิทธิประกันสังคมได้ปีละ 1 ครั้ง ในปีนี้สามารถเลือกเปลี่ยนได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

แผนเพิ่มสิทธิประโยชน์ในอนาคต

ปีนี้ยังเป็นปีสำคัญที่มีการปรับสิทธิและเพิ่มความครอบคลุมหลายด้าน เช่น

  • เงินทดแทนกรณีว่างงานเพิ่มเป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จากเดิม 50%
  • สิทธิทำฟันเพิ่มขึ้น กำลังพิจารณาการเพิ่มวงเงินและพิจารณาให้สิทธิทบยอดข้ามปี หากใช้ไม่ครบในสิ้นปี
  • ปรับสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วย เช่น การรักษาโรคเฉพาะทางด้วยเทคโนโลยีใหม่

นอกจากนี้ มีการวางแผนปรับเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบประกันสังคมแบบขั้นบันได ตั้งแต่ปี 2569-2575 พร้อมการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนกลุ่มต่าง ๆ เช่น การขยายอายุผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็น 65 ปี (ยังอยู่กำลังพิจารณา)

ประกันสังคมปี 2568 คือก้าวสำคัญในการเพิ่มสิทธิและขยายการคุ้มครองให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องเงินสงเคราะห์บุตร การรักษามะเร็ง และการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ

ดังนั้น ผู้ประกันตนควรติดตามข้อมูลอัปเดตอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบสิทธิของตนเอง เพื่อรับประโยชน์ที่ดีที่สุดจากทุก ๆ เปลี่ยนแปลง