บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ เปิดช่องทางซื้อของในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ที่ช่วยให้การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากลายเป็นเรื่องง่าย พร้อมสนับสนุนสินค้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ OTOP ผ่านร้านเซเว่นฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ

โครงการ Easy E-Receipt 2.0 สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความร่วมมือกับเซเว่น อีเลฟเว่นมีเครือข่ายสาขามากกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศ ทำให้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าในร้านเซเว่นฯ มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท และมาตรการนี้ไม่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์จากการชอปปิงในชีวิตประจำวัน

โดยแบ่งวงเงินเป็นสองส่วน ได้แก่

  1. 30,000 บาท สำหรับสินค้าและบริการทั่วไป
  2. 20,000 บาท สำหรับสินค้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ OTOP

เซเว่น อีเลฟเว่นยังนำเสนอสินค้าหลากหลายประเภทที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 750 รายการ เช่น น้ำพริก ผัดหมี่อุดร น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และขนมท้องถิ่นอื่น ๆ ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาไทย สินค้าเหล่านี้มีป้ายกำกับชัดเจนเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้อย่างง่ายดาย

สินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค ได้แก่ ยาสีฟันสมุนไพร แชมพูใบหมี่อัญชัน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หมอน ขนมเปี๊ยะ หนังปลาแซลมอนอบกรอบ ทองม้วน กล้วยแปรรูป มะพร้าวแก้ว ครองแครงกรอบ ขนมผิง ลูกอมกะทิ เป็นต้น

นอกจากนี้ ระบบการขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) ของเซเว่นฯ ยังเพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้สามารถดำเนินการได้ในทุกช่องทาง

  • ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าผ่านร้านเซเว่นฯ ที่สาขา
  • การสั่งซื้อผ่าน 7-ELEVEN Delivery
  • หรือ ALL ONLINE

4 ขั้นตอนขอใบกำกับภาษี โครงการ Easy E-Receipt 2.0

  1. ผ่านแอปพลิเคชัน 7APP สมัครและขอใบเสร็จ e-Tax พร้อมกรอกข้อมูลครบถ้วน
  2. ที่ร้านเซเว่นฯ แจ้งพนักงานและใช้บัตรประชาชนเพื่อขอใบกำกับภาษี
  3. ผ่าน 7-ELEVEN Delivery ขอใบกำกับภาษีผ่านประวัติคำสั่งซื้อในแอปฯ
  4. ผ่าน ALL ONLINE กรอกข้อมูลในหน้าสั่งซื้อสินค้าและตรวจสอบความถูกต้อง

เซเว่น อีเลฟเว่นไม่เพียงทำให้การลดหย่อนภาษีง่ายและสะดวก แต่ยังส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นและเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตผ่านโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ทั้งด้านสิทธิภาษีและการสนับสนุนชุมชนในเวลาเดียวกัน