ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เดินหน้ายกระดับมาตรการเชิงรุก ปราบปรามบัญชีม้าอย่างเข้มข้น ภายใต้แผน “ปิดปากม้า” ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศระงับธุรกรรมทางการเงินของบัญชีต้องสงสัย และแจ้งเตือนผู้ใช้บริการทันที หากพบว่ามีการทำธุรกรรมกับบัญชีต้องสงสัย
3 มาตรการหลัก สกัดบัญชีม้าแบบเบ็ดเสร็จ
- การกวาดล้างบัญชีม้าเชิงรุก
- ขยายเงื่อนไขการระบุบัญชีม้า โดยเพิ่มระดับบัญชีต้องสงสัยจาก “บัญชีม้า” เป็นบัญชีม้าเทาเข้ม-เทาอ่อน และบัญชีม้าน้ำตาล แม้ไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ แต่หากพบพฤติกรรมผิดปกติ ธนาคารสามารถดำเนินการได้ทันที
- “ปิดปากม้า” ระงับธุรกรรมโดยสมบูรณ์
- เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568 บัญชีที่เข้าข่ายต้องสงสัยจะไม่สามารถรับเงินโอนได้ และธนาคารต้องแจ้งเตือนผู้ใช้บริการทันที หากมีความเสี่ยงทำธุรกรรมกับบัญชีม้า
- โดยภายในเดือนมีนาคม มาตรการปิดกั้นบัญชีม้าเทาเข้ม-เทาจะมีผลเต็มรูปแบบ รวมถึงการเข้มงวดกับ บัญชีนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง
- ขยายความร่วมมือระหว่างธนาคาร สกัดบัญชีม้าทั้งระบบ
- ธนาคารทุกแห่งต้องแชร์ข้อมูลบัญชีม้าร่วมกัน ไม่จำกัดเฉพาะบัญชีที่ถูกแจ้งความ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปิดกั้นบัญชีต้องสงสัย
- สกัดกั้นการโอนเงินไปยัง บัญชีคริปโทฯ ซึ่งเป็นปลายทางหลักของเงินผิดกฎหมาย โดย 75% ของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า พบว่าเงินถูกโอนไปยังแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากนี้ ธปท. เน้นแนวคิด Shared Responsibility โดยให้ ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
หากละเลยมาตรฐานที่กำหนด ภายใต้ พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ฉบับใหม่ อำนาจการตัดสินความรับผิดชอบจะถูกกระจายไปยังผู้กำกับดูแลของแต่ละหน่วยงาน ไม่ต้องรอการพิจารณาจากศาลเท่านั้น