PepsiCo ประกาศเข้าซื้อแบรนด์ poppi เครื่องดื่มพรีไบโอติก มูลค่า 1
,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 64,350 ล้านบาท โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มการบริโภคน้ำอัดลมแบบดั้งเดิมที่ลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะพรีไบโอติกโซดากลับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย poppi และ OLIPOP เป็นสองแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Coca-Cola ก็เพิ่งเปิดตัวแบรนด์พรีไบโอติกโซดาของตัวเองชื่อว่า Simply Pop
PepsiCo เสริมทัพตลาดสุขภาพ
PepsiCo เคยมีแผนจะเปิดตัวเครื่องดื่มโซดาภายใต้แบรนด์ Soulboost แต่ภายหลังได้ยกเลิกแผนนั้น ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทหันไปซื้อ poppi แทน การเข้าซื้อครั้งนี้ช่วยให้ PepsiCo สามารถเข้าสู่ตลาดพรีไบโอติกโซดาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ตั้งแต่ต้น
ซึ่งดีลนี้มูลค่า 1
,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (64,350 ล้านบาท) แต่มีรวมสิทธิประโยชน์ทางภาษีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,900 ล้านบาท) ทำให้มูลค่าที่แท้จริงของข้อตกลงอยู่ที่ 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 54,450 ล้านบาท)
poppi ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดย แอลลิสัน เอลส์เวิร์ท (Allison Ellsworth) และ สตีเฟน เอลส์เวิร์ท (Stephen Ellsworth) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่คู่แข่งอย่าง OLIPOP เริ่มต้นธุรกิจเช่นกัน สูตรของ poppi ใช้ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล, พรีไบโอติก และมีน้ำตาลเพียง 5 กรัม ต่อกระป๋อง ทำให้ดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำตาลน้อย
ตลาดพรีไบโอติกโซดาเติบโตอย่างร้อนแรง
ในปี 2023 poppi สามารถทำยอดขายต่อปีทะลุ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) และเพิ่งโฆษณาผ่าน Super Bowl ติดต่อกันเป็นปีที่สอง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการตลาดและงบโฆษณาที่แข็งแกร่ง
แต่ล่าสุด poppi ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการโฆษณาเกินจริง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา poppi ตกลงที่จะจ่ายค่าชดเชย 8.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 294 ล้านบาท) เพื่อยุติคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าแบรนด์โฆษณาสรรพคุณด้านสุขภาพเกินจริง
อย่างไรก็ตาม ตลาดพรีไบโอติกโซดา ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ในขณะที่ PepsiCo ซื้อ poppi ที่มูลค่า 1
,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ฝั่ง OLIPOP ก็ได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทที่ 1
,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 61,050 ล้านบาท)