Forever 21 แบรนด์แฟชั่นฟาสต์แฟชั่นชื่อดังของสหรัฐฯ ได้ยื่นขอล้มละลายอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่สองในรอบ 6 ปี โดยขอเลือกแบบยังไม่ต้องปิดกิจการทันที หลังจากไม่สามารถหาผู้รับช่วงต่อในการซื้อร้านค้ากว่า 350 สาขาในสหรัฐฯ ได้
บริษัทประสบปัญหายอดขายลดลงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งขึ้น คู่แข่งสำคัญอย่าง Amazon, Shein และ Temu ได้เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ร้านค้าส่วนใหญ่ของ Forever 21 ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเผชิญปัญหาจำนวนผู้เข้าใช้บริการลดลงอย่างต่อเนื่อง
ตามรายงานของ Reuters บริษัท F21 OpCo ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการดำเนินงานของ Forever 21 ในสหรัฐฯ จะเปิดการขายสินค้าลดราคาในร้านค้าเพื่อระดมทุน ขณะเดียวกันก็จะดำเนินกระบวนการขายสินทรัพย์ภายใต้การดูแลของศาล
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า Forever 21 มีสินทรัพย์มูลค่าระหว่าง 100 ล้านถึง 500 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,300 ล้านถึง 16,500 ล้านบาท) และหนี้สินระหว่าง 1,000 ล้านถึง 10,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 33,000 ล้านถึง 330,000 ล้านบาท) เทียบแล้วมีหนี้สูงถึงเกือบ 20 เท่า โดยมีเจ้าหนี้ระหว่าง 10,001 ถึง 25,000 ราย
แม้บริษัทจะเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย แต่ยังมีโอกาสที่ Forever 21 จะไม่หายไปจากตลาดทั้งหมด Authentic Brands ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของ Forever 21 ยืนยันว่าบริษัทกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยอาจหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์และการขายส่งมากขึ้น
นอกจากนี้ Authentic Brands ยังยืนยันว่า การล้มละลายครั้งนี้ไม่กระทบกับธุรกิจของ Forever 21 ในต่างประเทศ ทำให้แบรนด์ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจในตลาดอื่น ๆ ได้