การเรียนรู้เรื่องการเงินส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชีวิตของทุกคน แต่ก็เป็นเรื่องที่หลายคนกว่าจะได้เรียนก็ใช้เวลาหลายปี บางคนได้รู้ช่วงทำงาน เกิดคำถามว่าทำไมเรื่องการออม การใช้จ่าย การลงทุน และการบริหารจัดการเงินไม่ได้ถูกสอนในโรงเรียนอย่างกว้างขวาง ทำให้ผู้คนหลายคนขาดความรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการจัดการกับชีวิตทางการเงินของตัวเองจนถึงเมื่อโตขึ้นแล้ว

แม้เยาวชนจำนวนมากจะสนใจอยากเรียนรู้เรื่องการเงินส่วนบุคคล เช่น การออม การใช้บัตรเครดิต หรือการจัดงบประมาณ แต่ความจริงแล้วการเรียนรู้ทางการเงินกลับยังไม่เป็นระบบในหลายโรงเรียนทั่วโลก รวมถึงในประเทศพัฒนาแล้ว

บทความนี้เสนอประเด็นคำถามที่ติดในใจหลายคนมานาน “ทำไมโรงเรียนไม่สอนเรื่องการเงินและลงทุน” ทั้งที่เป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่านักเรียนแต่ละคนจะจบมาทำอาชีพอะไรก็ตาม ย่อมหนีเรื่องเงินทอง ภาษีไม่พ้น รวมทั้งยังรวบรวมมาให้ถึง 11 ข้อสำคัญควรรู้เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลเพื่อบริหารความมั่งคั่งในอนาคต

ทำไมการเงินส่วนบุคคลถึงไม่ถูกสอนในโรงเรียน?

หนึ่งในเหตุผลที่การเงินส่วนบุคคลไม่ได้ถูกสอนในโรงเรียนคือการจำกัดเวลาในหลักสูตรการเรียนการสอน โดยโรงเรียนในหลายประเทศต้องมุ่งเน้นการสอนวิชาหลักที่เป็นมาตรฐานตามหลักสูตรของรัฐ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษา ตามหลักสูตรที่กำหนดจากกระทรวงการศึกษา จึงไม่สามารถเพิ่มวิชาการเงินส่วนบุคคลได้ งทำให้เด็ก ๆ ขาดโอกาสในการเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นสำหรับการจัดการการเงินในชีวิตจริง

อีกสาเหตุหนึ่งคือการขาดครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการเงินส่วนบุคคล หลายครั้งที่แม้ครูจะมีความเชี่ยวชาญในวิชาอื่น แต่การสอนเรื่องการเงินก็ยังขาดความมั่นใจหรือไม่สามารถอธิบายแนวคิดที่ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน

และสุดท้าย ความขาดแคลนทรัพยากรในการสอนก็เป็นอุปสรรคในการสอนเรื่องการเงิน โดยเฉพาะเอกสารการสอนและเครื่องมือที่สามารถทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุด การสอนที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับชีวิตจริงทำให้เด็กหลายคนขาดโอกาสในการฝึกฝนทักษะการบริหารการเงินในชีวิตประจำวัน

ประโยชน์การรู้เรื่องเงินทองก่อนทำงาน

หากเรียนรู้เรื่องการเงินตั้งแต่ก่อนเข้าทำงานจะช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต การรู้วิธีการบริหารจัดการเงิน เช่น การออม การลงทุน และการลดค่าใช้จ่ายสามารถช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นได้ การทำความเข้าใจเรื่องเงินตั้งแต่ต้นจะทำให้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น มีการออมเงินเพื่ออนาคต และสามารถลงทุนเพื่อสร้างชีวิตที่มั่งคั่งขึ้นในระยะยาว

ทำให้เข้าใจว่า วิธีการสร้างรายได้เป็นหนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญในเรื่องการเงินเช่นเดียวกับการสร้างอิสรภาพทางการเงิน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เสมือนการเปิดก๊อกน้ำ (รายรับ) ให้น้ำไหลมากที่สุด เพื่อเก็บสะสม (เงินเก็บ) โดยที่การเพิ่มรายรับนั้นสามารถทำได้จากการสร้างมูลค่าหรือการทำงานที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนอื่น ๆ เช่น การแก้ปัญหาหรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

ดังนั้น ความรู้ทางการเงินไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่คือทักษะชีวิตที่มีผลต่ออนาคตของทุกคน การเข้าใจเรื่องเงินตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยป้องกันปัญหาหนี้ ความเครียดทางการเงิน และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมาก

หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันสร้างระบบการเรียนรู้ที่ชัดเจนและยั่งยืน การเงินส่วนบุคคลจะไม่ใช่แค่เรื่องของคนทำงานอีกต่อไป แต่เป็นทักษะพื้นฐานของทุก ๆ คนในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง

10 เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ครอบจักรวาลที่ควรรู้

1. วิธีสร้างรายได้

การสร้างรายได้สามารถทำได้หลายทาง ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการทำงานประจำ โดยข้อดีคือสามารถคาดการณ์รายได้ได้แน่นอนในแต่ละเดือน แต่ข้อเสียคือการไม่มีอิสระในการเลือกเวลาทำงานและการควบคุมงานที่ทำ ทำให้บางคนรู้สึกถูกจำกัดในเรื่องของเวลาและเสรีภาพ

อีกหนึ่งวิธีคือการทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีข้อดีที่สามารถควบคุมอิสระในการทำงานได้เต็มที่ และสามารถเลือกแนวทางการทำงานได้ตามใจชอบ แต่ข้อเสียคือรายได้ที่ไม่แน่นอน เพราะธุรกิจอาจมีทั้งช่วงที่เจริญรุ่งเรืองและช่วงที่เงียบเหงา

ส่วนทางเลือกสุดท้ายคือการทำงานฟรีแลนซ์ที่สามารถทำงานตามทักษะที่เราถนัดได้ งซึ่งสามารถเป็นรายได้เสริมที่ดี แต่ก็ต้องมีการจัดการเวลาและความสามารถในการหาลูกค้าเพื่อรักษารายได้

การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและความพอใจในการทำงานจึงมีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากความสุขในการทำงานนั้นส่งผลต่อความยั่งยืนในการทำงาน หากทำงานที่ไม่ชอบ แม้จะมีรายได้สูง ก็อาจจะไม่สามารถทำได้ในระยะยาว

2. การแบ่งเงินเก็บ

การแบ่งเงินเก็บให้เป็นระเบียบและมีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน สิ่งแรกที่ควรมีคือการเก็บเงินฉุกเฉิน สำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ ซึ่งควรสำรองไว้ไม่น้อยกว่า 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายรายเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ได้โดยไม่เดือดร้อน

นอกจากนี้ การแบ่งเงินเก็บสำหรับใช้จ่ายประจำวันก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยต้องจัดสรรเงินให้พอเหมาะสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง โดยการแบ่งเงินเก็บอย่างมีระเบียบจะช่วยให้เราไม่ใช้เงินเกินตัวและสามารถจัดการเงินในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. วิธีการลงทุน

การลงทุนถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยการลงทุนในหลายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรทำ ซึ่งการกระจายการลงทุน (Diversification) ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งหุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ จะช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดี และสามารถลดโอกาสในการขาดทุนจากการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการลงทุนคือการใช้กลยุทธ์ Dollar Cost Averaging (DCA) ซึ่งเป็นการลงทุนในช่วงเวลาหลาย ๆ รอบ โดยไม่คำนึงถึงราคาในแต่ละรอบ เพื่อเฉลี่ยราคาในการลงทุนให้สมดุลมากขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถจับจังหวะตลาดได้แม่นยำ แต่ต้องการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและระยะยาว

4. การซื้อบ้าน

การซื้อบ้านมักจะต้องกู้เงินจากธนาคารและเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องชำระไปในระยะยาว ซึ่งการตัดสินใจนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะบ้านเป็นสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อ แม้ว่าในบางกรณี การซื้อบ้านอาจจะเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว แต่ก็ต้องระวังเรื่องของการจัดการหนี้ที่เกี่ยวข้อง

ก่อนการซื้อบ้าน ควรมั่นใจว่ามีรายได้ที่มั่นคงและสามารถรับมือกับภาระหนี้ได้โดยไม่เกิน 40% ของรายได้ รวมทั้งต้องเตรียมเงินดาวน์ประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน เพื่อที่จะไม่ให้ภาระหนี้เกินกำลัง นอกจากนี้ การเลือกซื้อบ้านที่มีมูลค่าเหมาะสมกับกำลังซื้อและค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบก็เป็นสิ่งที่สำคัญ

5. การออม

การออมเงินเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยออมเพื่อเก็บเงินในอนาคต ไม่ใช่เพื่อใช้จ่ายในปัจจุบัน การมีเป้าหมายการออมที่ชัดเจน เช่น การออมเงิน 20-30% ของรายได้ในแต่ละเดือน จะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินและสามารถเตรียมตัวสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคต

และการออมเงินยิ่งเริ่มไว ยิ่งดี สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ตอนนี้ แม้จะเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยก็ตาม เพราะเงินที่ออมไปสามารถใช้ในการลงทุนหรือเป็นเงินสำรองในยามฉุกเฉิน การจัดสรรเงินเพื่อออมเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินที่ดี

6. เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้เงินที่มีอยู่ในมือมีมูลค่าลดลงทุกปี ตัวอย่างเช่น ค่าของเงิน 100 บาทในปีที่แล้วอาจไม่สามารถซื้อสินค้าหรือบริการเดียวกันในปีนี้ได้ เพราะราคาสินค้านั้นเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ในระยะยาว อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบต่อการวางแผนการเงินในอนาคตได้มาก

ดังนั้นการวางแผนการเงินในระยะยาวควรคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ เพราะหากเราไม่เตรียมการรับมือกับปัญหานี้ อาจทำให้เงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในอนาคต การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการเงินเฟ้อจึงเป็นวิธีที่สำคัญ

7. พลังดอกเบี้ยทบต้น

ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำให้เงินที่ลงทุนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมีการนำดอกผลที่ได้รับจากการลงทุนมาลงทุนใหม่ ซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะยาว การใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นสามารถช่วยให้เรามีเงินจำนวนมากในอนาคต หากลงทุนอย่างสม่ำเสมอและไม่ถอนเงินออกมา

การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยทบต้น เช่น พันธบัตร หรือการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูง เป็นวิธีที่ช่วยให้เงินทำงานแทนเรา ช่วยให้การลงทุนในระยะยาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่เรายังสามารถเก็บสะสมเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป

8. การใช้บัตรเครดิต

บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถช่วยให้เรามีความสะดวกในการชำระเงินในชีวิตประจำวัน แต่หากใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ระมัดระวัง อาจนำไปสู่การเป็นหนี้ที่ไม่สามารถชำระได้ การใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธีควรจ่ายเต็มจำนวนและจ่ายตรงเวลาทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยที่สูง

หากใช้บัตรเครดิตอย่างมีระเบียบและตรงต่อเวลา จะได้รับคะแนนสะสมและประโยชน์จากการใช้งาน เช่น ส่วนลดหรือของรางวัลต่าง ๆ การใช้บัตรเครดิตสามารถเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการการเงินได้ดี แต่ต้องระวังการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ฉะนั้น การควบคุมการใช้จ่ายและการตรวจสอบยอดใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การใช้บัตรเครดิตไม่กลายเป็นภาระทางการเงินในระยะยาว

9. ภาษี

ภาษีเป็นส่วนสำคัญในระบบการเงินของแต่ละประเทศ โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีจากการทำธุรกิจเป็นภาระที่ต้องจ่ายตามกฎหมาย การรู้จักบริหารภาษีและใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี เช่น การลงทุนในกองทุนเกษียณระยะยาว RMF หรือการลงทุนในกองทุนโครงการ Thai ESG จะช่วยให้เราสามารถลดภาระภาษีได้

การวางแผนการเงินและภาษีให้ดีสามารถช่วยให้เราประหยัดภาษีและเพิ่มเงินสะสมให้มากขึ้น ในการทำธุรกิจ การหาทางลดภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นสิ่งสำคัญ

10. ประกัน

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญในการดูแลตัวเองและครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ประกันชีวิตจะช่วยให้ครอบครัวสามารถมีความมั่นคงทางการเงินได้ ขณะที่ประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่อาจสูงมาก

การเลือกประกันควรพิจารณาถึงความต้องการของตนเองและครอบครัว รวมถึงการจ่ายเบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเงินในชีวิตประจำวัน

การทำประกันเป็นการเตรียมตัวเพื่ออนาคต และช่วยให้เรามีความมั่นคงในกรณีที่ไม่คาดคิด ทั้งในเรื่องสุขภาพและการดำรงชีวิต

สุดท้าย ความรู้เรื่องการเงินส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งสามารถแบ่งปันความรู้เหล่านี้ให้กับผู้อื่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางการเงินในวงกว้าง

หากสามารถนำทักษะการบริหารการเงินไปใช้ในการสร้างชีวิตที่มั่งคั่งและมั่นคงได้ การมีอิสระทางการเงินจะไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่ทำได้จริง การเริ่มต้นตอนนี้จะทำให้เรามีความพร้อมในการเผชิญกับอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทายทางการเงิน