อาจกล่าวได้ว่า หนึ่งในบริษัทที่ยังไม่ได้รับกระทบจากสงครามการค้ามากนัก คงหนีไม่พ้น บริษัทให้ความบันเทิงอย่าง Netflix (NFLX) ที่รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่มีผลกำไรและยอดขายสูงกว่าคาด
- กำไร (EPS) 6.6 เหรียญต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะมีกำไร 5.67 เหรียญต่อหุ้น โดยกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- และยอดขาย 10,540 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตจากยอดขาย 10,500 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 12.5%
โดยการรายงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Netflix ไม่เปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการ เนื่องจากบริษัทต้องการให้นักลงทุนมุ่งเน้นไปที่รายได้และกำไรจากการดำเนินงานแทน โดยล่าสุดจำนวนผู้ใช้ Netflix 301.6 ล้านรายทั่วโลกในปี 2024
สำหรับไตรมาสที่สองของปี 2025 Netflix คาดว่าจะมีกำไร 7 เหรียญต่อหุ้นจากยอดขาย 11,000 ล้านเหรียญ ซึ่งยังคงสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะมีกำไร 6.25 เหรียญต่อหุ้นจากยอดขาย 10,900 ล้านเหรียญ
หลังจากการประกาศผลการดำเนินงานในช่วงการซื้อขายปกติของวันพฤหัสบดีหุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้น 1.2% ปิดที่ 973.03 เหรียญ ขณะที่ในช่วงหลังการซื้อขาย Netflix มียอดหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 4% มาปิดที่ 1,017 เหรียญ

ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Netflix กล่าวว่ารายได้และกำไรจากการดำเนินงานดีกว่าที่คาด เนื่องจากรายได้จากการสมัครสมาชิกและโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายที่ลดลง
บริษัทได้คงการคาดการณ์ทั้งปี 2025 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม คาดว่าจะมียอดรายได้ที่ 44,000 ล้านเหรียญ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ 29% เพิ่มขึ้นจากในปี 2024 Netflix ทำรายได้ 39,000 ล้านเหรียญ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 27%
รวมถึงในอนาคต Netflix ตั้งเป้าหมายภายในปี 2030 ให้สามารถเพิ่มรายได้เป็นสองเท่าจากปี 2025 และตั้งเป้าเป็นบริษัทมูลค่าตลาดที่ 1 ล้านล้านเหรียญ (เทียบเท่ากับมูลค่าบริษัท Meta และบริษัท Berkshire Hathaway ในเวลานี้) โดยห่างจากมูลค่าบริษัทปัจจุบัน 2 เท่า