แม้กระแสโควิด-19 จะส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมซบเซา สวนทางกับภาคธุรกิจดิจิทัลกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการผนึกกำลังระหว่าง 3 เอกชนยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัทควอนตัม เมทัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายทองคำรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ร่วมกับบริษัทสตางค์ คอร์เปอเรชัน จำกัด ผู้ดำเนินการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่เชื่อถือได้มากที่สุดในไทย และบริษัทเอมเมอรัลด์ เทค แอดวานซ์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากประสบการณ์
ทั้งสามบริษัทเอกชนนี้ได้จับมือร่วมธุรกิจดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์พร้อมกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกของภูมิภาคเอเชีย สำหรับการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล ชำระการลงทุนผ่านเงินดิจิทัล ทองคำและคริปโตเคอเรนซี โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าสามารถดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามามากกว่า 3,000 ราย และเม็ดเงินสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงหนุนการท่องเที่ยวมากกว่า 30,000 ล้านบาท
นายกลันธ์ อินทวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอ็มเมอรัลด์ เทค แอดวานซ์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 การใช้ชีวิตของมนุษยชาติก็เปลี่ยนไป ทำให้เกิดการชะงักงันและส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ เว้นแต่ธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัลที่มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเรียนรู้ และตื่นตัวในเรื่องดิจิทัลอย่างกว้างขวาง นับเป็นอีกความท้าทายและเป็นโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในเวลาเดียวกัน
การร่วมมือกันครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบาย ของการท่องเที่ยวประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและกลุ่มพำนักระยะยาวเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยบริษัท เอมเมอรัลด์ เทค แอดวานซ์ จำกัด ได้พัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติกลุ่มนี้ เข้าสู่สมาชิก ‘Elite Card’ ที่มีแพ็คเกจต่าง ๆ รองรับ โดยสิทธิพิเศษที่นักลงต่างชาติจะได้รับคือบริการรับส่งสนามบิน, บริการตรวจสุขภาพฟรี, ส่วนลดพิเศษของโรงแรม ร้านอาหาร สปาและความสะดวกสบายในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้เป้าหมายคือดึงนักลงทุนนานาชาติที่เป็นฐานสมาชิกของ บริษัท ควอนตัม เมทัล มาเลเซีย 3,000 ราย มาลงทุนในไทย คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ กว่า 30,000 ล้านบาท
Jonathan Seow ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO), (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท ควอนตัม เมทัล ที่มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย มีฐานสมาชิกนักลงทุนนานาชาติอยู่ในมือกว่า 3,000 ราย และสามารถนำกลุ่มคนเหล่านี้เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยได้
นายสรัล ศิริพันธ์โนน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชัน จำกัด เปิดเผยว่าสตางค์ คอเปอร์เรชัน ช่วยนำพาอนาคตของโลกดิจิทัลมาสู่ปัจจุบันได้ง่ายขึ้น โดยนักลงทุนสามารถชำระเงินดิจิทัล โดยการเปลี่ยนทองคำเป็นคริปโตเคอเรนซีหรือเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีเป็นทองคำ ผ่านระบบของสตางค์ที่มีซอฟต์แวร์รองรับอยู่แล้ว เพื่อความสะดวกในการชำระเงินของลูกค้าด้วย ทั้งนี้ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชัน จำกัด ก็มุ่งหวังจะดึงนักลงทุนรุ่นใหม่ ๆ เข้าสู่ทางเลือกในการลงทุนระดับประเทศเช่นกัน