MicroStrategy บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์ระบบธุรกิจอัจฉริยะที่เข้าสู่การซื้อบิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นเงินสำรองในงบดุลขององค์กรแทนเงินสดที่มีแนวโน้มของเงินเฟ้อได้ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ลงวันที่ 29 พ.ย. ว่าได้มีการซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมอีก 7,002 ฺเหรียญ BTC ด้วยราคาเฉลี่ย 59,187 เหรียญ (1,991,642 บาท) มีมูลค่าทั้งสิ้น 414.4 ล้านเหรียญ (13,946 ล้านบาท)
เอกสารยังเผยว่าขณะนี้บริษัทได้ถือครองจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมด 121,044 เหรียญ (BTC) ซึ่งได้มาในราคาซื้อรวม 3,570 ล้านเหรียญ (120,134 ล้านบาท) และราคาซื้อเฉลี่ยประมาณ 29,534 เหรียญ (994,114 บาท) หากคำนวณการถือครอง ณ ราคาในวันพุธที่ 57,193 เหรียญ (1,925,116 บาท) ก็จะมีมูลค่าทั้งหมด 6,920 ล้านเหรียญ (232,927 ล้านบาท)
ต้นเดือนพฤศจิกายน บิตคอยน์ทำราคาสูงสุดตลอดกาลสูงถึง 69,400 เหรียญ (2,336,004 บาท) แต่นับจากวันที่ 19 ก็ได้ตกลงมาจากระดับ 60,000 เหรียญ (2,019,000 บาท) และสัปดาห์ที่ผ่านมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ที่มีชื่อว่า Omicron (โอไมครอน หรือ B.1.1.529) ทำให้เกิดความกังวลส่งผลให้หุ้นและสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งบิตคอยน์ร่วงลงมาอย่างหนัก ล่าสุดในสัปดาห์นี้ก็ได้ฟื้นตัวขึ้นมา
ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ MicroStrategy ได้ประกาศถึงการซื้อบิตคอยน์ครั้งล่าสุดนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก่อนที่ตลาดหุ้นจะเปิดซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ณ เวลาสิ้นสุดการซื้อขายในวันอังคารอยู่ที่ 721 เหรียญ (24,247 บาท) มากกว่าราคาเมื่อวันศุกร์ที่ 663 เหรียญ (22,303 บาท) และมีมูลค่าตามราคาตลาดถึง 7,470 ล้านเหรียญ (251,216 ล้านบาท) หากนับจากต้นปีจนมาถึงตอนนี้ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นถึง 70%
อย่างไรก็ตาม ปลายเดือนตุลาคม MicroStrategy ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งในบัญชีงบดุลแจ้งว่ามูลค่าตามบัญชีของการถือครองบิตคอยน์ ณ วันที่ 30 กันยายน อยู่ที่ 2,400 ล้านเหรียญ (80,784 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงการด้อยค่าสะสมของบิตคอยน์ประมาณ 755 ล้านเหรียญ (25,413 ล้านบาท) ซึ่งตอนนั้นราคาบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 41,500 เหรียญ (1,396,475 บาท) สรุปง่าย ๆ ว่าราคาช่วงนั้นจะขาดทุน แต่ถ้าคำนวณในช่วงนี้มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้น
ที่มา : fortune
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส