โมเรนา วาลเดซ (Morena Valdez) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของเอลซัลวาดอร์เผยว่าตั้งแต่ประเทศนี้ได้เปิดรับการชำระเงินด้วยบิตคอยน์อย่างเป็นทางการ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในท้องถิ่นเกิดผลในเชิงบวกเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา
เอลซัลวาดอร์มีภาคการท่องเที่ยวที่มีผลสำคัญต่อ GDP ของประเทศ ก่อนวิกฤติโควิด – 19 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศปีละมากกว่า 2,500,000 คน แต่ก็ลดลงเหลือน้อยที่สุดในปี 2020 – 2021 ล่าสุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีผู้คนเดินทางเข้ามาจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการยอมรับบิตคอยน์ ซึ่งจากผลการสำรวจก่อนและหลังรับบิตคอยน์พบว่าในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม การท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30%
เห็นได้ชัดว่าก่อนรับบิตคอยน์นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ฮอนดูรัส กัวเตมาลา และนิการากัว แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเพราะมีนักท่องเที่ยวมาจากสหรัฐฯ ถึง 60% อีกทั้งมีการใช้เงินในระหว่างที่เข้าพักเพิ่มขึ้น และมีกำไรที่คาดว่าจะได้รับอยู่ที่ 800,000 เหรียญสหรัฐฯ (25 ล้านบาท) แต่ตัวเลขรายได้ที่แท้จริงเป็นสกุลเงินต่างประเทศมากกว่า 1,400,000 เหรียญสหรัฐฯ (45 ล้านบาท)
นอกจากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สนใจในการสำรวจการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ที่ประกาศใช้เป็นประเทศแรก ซึ่งปลายเดือนที่ผ่านมาได้มีคู่รักชาวอิตาลีเดินทางรอบเอลซัลวาดอร์ 45 วันด้วยบิตคอยน์จนเป็นข่าวใหญ่ และเชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวอีกไม่น้อยจะเดินทางเข้ามารับประสบการณ์นี้
ที่มา : cryptopotato
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส