ผู้อ่านเป็นเหมือนกันไหมครับ เวลาเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วเห็นถุงข้าวสารอวบ ๆ แน่น ๆ แล้วรู้สึกว่ามันช่างยั่วยวนให้น่าทุบหรือตบป้าบแรง ๆ สักที แค่นั้นแหละ แล้วก็สามารถเดินต่อไปได้อย่างสบายใจ หรือบางครั้งเราเห็นแล้วก็ตบไปโดยอัตโนมัติ โดยที่สมองไม่ทันได้สั่งการเลยด้วยซ้ำ ตบทำไมไมรู้ รู้แค่ว่าได้ตบแล้วมัน…ฟิน วันหนึ่งมีคนเดินผ่านถุงข้าวสาร 100 คน ก็อาจจะตบไปแล้ว 90 คน ถึงขนาดบางร้านต้องเอาป้ายมาวางว่า ‘อย่าทุบถุงข้าวสาร’ ก็มี
ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลหรือสงสัยว่าเราผิดปรกติหรือไม่ เพราะอาการแบบนี้เป็นกันทั้งโลกครับ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ชนชาติเอเซียจะชอบตบถุงข้าวสารกัน ส่วนชาติตะวันตกเขาก็ชอบตบถุงดินกัน หรือบรรดาถุงที่บรรจุอะไรไว้แน่น ๆ อย่างเช่นถุงทราย หรือถุงอาหารหมา ก็ชวนให้ตบสักป้าบเหมือนกันหมด
เรื่องอาการชอบตบถุงข้าวสารนี้ก็ถูกพูดถึงกันมากบนโลกโซเชียล ถึงขนาดมีการทำมีมล้ออาการนี้ออกมา แล้วได้รับความนิยมส่งต่อกันเยอะมาก มีมที่ฮิตที่สุดเป็นภาพชายหนุ่มกำลังอดกลั้นจนหน้าแดง เส้นเลือดปูดโปน อีกภาพที่วางคู่กันเป็นภาพถุงข้าวสารกองใหญ่ แล้วมีคำบรรยายประกอบว่า นี่คืออาการของผมตอนที่อดกลั้นจะไม่ตบถุงข้าวสาร
นอกเหนือจากนี้ก็มีมีมที่เกี่ยวกับการตบถุงข้าวสารอีกนับสิบที่แพร่หลายบนโลกออนไลน์ แม้กระทั่งเพจต่าง ๆ ในบ้านเราเองก็มี
หลายคนก็สงสัยถึงอาการเหล่านี้ของตัวเอง บางคนก็ไปตั้งคำถามบนเว็บไซต์อย่าง reddit หรือ quora แต่ก็ไม่มีคำตอบหรือคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาออกมา แต่มีคำอธิบายจากผู้ใช้ทั่วไปรายหนึ่ง ที่ฟังดูมีเหตุมีผลและได้รับการกดไลก์ไปมากมาย มีเนื้อหาดังนี้ครับ
“การที่เราจะตบอะไรสักอย่างแล้วมีเสียงดัง ‘เป๊าะ’ อะไรแบบนี้ออกมา ก็ถือว่ามันเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ แล้วเสียงเนี้ยมันก็ได้ดังจนแสบแก้วหูแบบลูกโป่งแตกอะไรแบบนั้น แล้วเวลาตบไปมันก็ไม่เจ็บมือเราเองด้วย มันก็เลยเป็นความสะใจมากกว่าตอนที่ตบหมอน เพราะมันนุ่มแล้วเสียงไม่ดัง
หรือลองไปตบแตงโมดูก็ได้เสียงดังสนุกดีเหมือนกันนะ ถ้าจะถามฉันถึงเหตุผลที่เราชอบใจกับการกระทำเหล่านี้? ฉันว่าไม่น่าจะมีคำอธิบายที่จำเพาะเจาะจงได้หรอก ตามความคาดเดาของฉันเอง น่าจะเป็นความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์เราที่อยากจะสัมผัสกับสิ่งรอบ ๆ ตัวหรือได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งเหล่านั้น เราคงไม่อยากจะไปตบอะไรที่ตบไปแล้วเราไม่รู้สึกอะไร หรือตบไปแล้วเจ็บมือ หรือตบไปแล้วสร้างความเสียหายหรอกจริงไหม ฉะนั้นการกระทำเหล่านี้ก็เป็นเพียงการสร้างความสนุกรื่นรมย์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตเท่านั้น เป็นกิจกรรมแก้เบื่อ บางครั้งเราเองก็มีภาระจะต้องแบกอาหารหมากระสอบใหญ่ ๆ หรืออุ้มลูกแตงโมหนัก ๆ เหล่านี้เป็นงานที่น่าเบื่อ การได้ตบพวกมันสักป้าบนึง ก็ถือว่าเป็นความบันเทิงเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ถือว่าได้พักเบรกสักแป๊บนึงระหว่างที่ต้องทำงานน่าเบื่อแค่นั้นแหละ”
ถ้าการได้ตบสักป้าบแล้วมันสร้างความรื่นรมย์ในชีวิตได้ก็ตบกันต่อไป ถ้าไม่มีป้ายห้ามนะ ขอเพียงแค่อย่าไปตบจนถุงข้าวสารเขาแตกก็แล้วกันเนอะ
ผู้เขียนฝากข้อสงสัยสุดท้ายไวัสักหน่อยว่า แล้วทำไมเวลาถุงข้าวสารเหล่านี้เมื่อมาวางอยู่ในครัวบ้านเราแล้วถึงไม่รู้สึกอยากตบมันแล้วล่ะ?