ศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก (UCL) ฤดูกาล 2023-2024 เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แล้วเมื่อไม่นานมานี้ผลการจับสลากก็เพิ่งออกมา เรียกได้ว่าน่าดูทุกคู่ ซึ่งการจับฉลากในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้จะไม่มีเงื่อนไขที่ว่าทีมที่มาจากประเทศเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันห้ามเจอกัน หรือเรียกว่าสามารถเจอกันได้ทุกทีม และมีการวางสายประกบคู่ในรอบรองชนะเลิศหรือรอบ 4 ทีมแล้วเรียบร้อยว่าคู่ไหนจะได้เจอกับคู่ไหน โดยทีมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายประกอบไปด้วย บาเยิร์น มิวนิค , อาร์เซน่อล , เรอัล มาดริด , ปารีส แซงค์-แชร์กแมง , แอตเลดิโก้ มาดริด , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนและบาร์เซโลน่า โดยผลการจับสลากเป็นดังนี้

สรุปผลการจับสลาก

*ทีมด้านบนนัดแรกจะได้เล่นในบ้านก่อน ทีมด้านล่างจะต้องมาเยือนก่อน*

ซึ่งคู่นัดชิงจะมาจากสายฝั่งซ้ายคือ ผู้ชนะระหว่าง แอตเลดิโก้ มาดริด กับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุน จะพบกับ ผู้ชนะระหว่าง ปารีส แซงค์-แชร์กแมง กับ บาร์เซโลน่า และฝั่งขวาคือ ผู้ชนะระหว่าง อาร์เซน่อล กับ บาเยิร์น มิวนิค จะพบกับ ผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

คู่ที่ 1 อาร์เซน่อล vs บาเยิร์น มิวนิค

อ้างอิง: https://football.kapook.com/match-174750-arsenal-bayern-munich

การกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 7 ปี เรียกได้ว่าเป็นคู่แท้กันจริงๆสำหรับ อาร์เซน่อล กับ บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจากที่ผ่านมามักเจอกันในรอบตัดเชือกอยู่เสมอ ซึ่งมักเป็นฝ่ายบาร์เยิร์น มิวนิคที่สามารถทำได้ดีกว่า 

ซึ่งนี่น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนอาร์เซน่อลหลายคนคาดหวังที่อยากเจอบาเยิร์นอีกครั้งเพื่อหวังจะแก้แค้น ถ้าว่าด้วยฟอร์มในปัจจุบันของอาร์เซน่อลอาจดูดีกว่าแต่ก็ประมาทความเก๋าของบาเยิร์นไม่ได้ น่าจะเป็นคู่ที่สนุกมากๆอีกคู่

สิ่งที่น่าสนใจในนัดนี้

  1. แซร์จ กนาบี้ อดีตนักเตะของอาร์เซน่อลจะกลับมาเจอทีมเก่า
  2. ไค ฮาแวร์ตซ์ และ จอร์จินโญ่ จะเจอเจ้านายเก่าที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกร่วมกันอย่างโทมัส ทูเคิ่ล
  3. แฮรี่ เคน จะกลับมาเจออาร์เซน่อล คู่แข่งในนอร์ทลอนดอนดาร์บี้ โดยเขามีสถิติยิงได้ 14 ประตูจาก 17 เกมในศึกนอร์ทลอนดอนดาร์บี้

การพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกช่วงที่ผ่านมา

ฤดูกาล 2016-2017 เจอกันรอบ 16 ทีมสุดท้าย

นัดแรก อาร์เซน่อล แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-5

นัดสอง บาเยิร์น มิวนิค ชนะ อาร์เซน่อล 5-1

(บาเยิร์น มิวนิคเข้ารอบ สกอร์รวม 10-2)

ฤดูกาล 2014-2015 เจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม

บาเยิร์น มิวนิค ชนะ อาร์เซน่อล 5-1

อาร์เซน่อล ชนะ  บาเยิร์น มิวนิค 2-0

คู่ที่ 2 เรอัล มาดริด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อ้างอิง: https://www.telegraph.co.uk/football/2023/05/18/man-city-vs-real-madrid-best-half-by-english-side-ever/

เรียกได้ว่าเป็นคู่แท้อีกคู่นึง แชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ต้องพบกับเรอัล มาดริดอีกครั้ง ทั้ง 2 ทีมเจอกันมา 2 ฤดูกาลติดและฤดูกาลนี้ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยฤดูกาล 2021-2022 เป็นเรอัลมาดริดที่ดีกว่าสามารถผ่านเข้ารอบไปได้โดยมีนัดที่เรอัล มาดริดมีโอกาส 1% ในการเข้ารอบแต่สามารถพลิกมาเข้ารอบได้ แต่เมื่อฤดูกาลก่อนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็สามารถล้างตาและแก้แค้นได้สำเร็จ เป็นคู่ที่มองยากมากว่าใครจะได้ผ่านเข้ารอบ

สิ่งที่น่าสนใจในนัดนี้

  1. มาเตโอ โควาซิช อดีตนักเตะเรอัลมาดริดกลับมาเจอทีมเก่า
  2. บราฮิม ดิอาซ อดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับมาเจอทีมเก่า
  3. การดวลกันของทีมแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว กับ ทีมที่ได้แชมป์ในรายการนี้มากที่สุด 14 สมัย

การพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกช่วงที่ผ่านมา

ฤดูกาล 2022-2023 เจอกันรอบ 4 ทีม

นัดแรก เรอัล มาดริด เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1

นัดสอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เรอัล มาดริด 4-0

(แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบ สกอร์รวม 5-1) ซึ่งในฤดูกาลนั้นเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เป็นแชมป์

ฤดูกาล 2021-2022 เจอกันรอบ 4 ทีม 

นัดแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เรอัล มาดริด 4-3

นัดสอง เรอัล มาดริด ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1

(เรอัล มาดริด เข้ารอบ สกอร์รวม 6-5) ซึ่งในฤดูกาลนั้นเป็นเรอัล มาดริดที่เป็นแชมป์

คู่ที่ 3 แอตเลดิโก้ มาดริด vs โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์

อ้างอิง: https://www.sueddeutsche.de/sport/bvb-atletico-borussia-dortmund-champions-league-griezmann-1.4200208

คู่นี้เป็นคู่ที่เจอกันไม่บ่อยนัก อย่างแอตเลดิโก้ มาดริด ที่จะเจอกับ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ โดยปีล่าสุดที่เจอกันคือปี2017-2018 ซึ่งผลัดกันชนะคนละนัด โดยนัดแรกของโบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์สามารถเอาชนะได้ 4-0 ในบ้านของตัวเอง ส่วนอีกเป็นแอตเลดิโก้ มาดริด ที่เอาชนะไปได้ 2-0 ในบ้านของตัวเอง เป็น 2 ทีมที่มีจุดแข็งเหมือนกันคือการเล่นในบ้าน ถ้าว่าด้วยฟอร์มในปัจจุบันเรียกว่าไม่ต่างกัน เกมที่เล่นในบ้านน่าจะเป็นตัวตัดสิน ถือว่าเป็นคู่ที่สูสีกันมากๆ

สิ่งที่น่าสนใจในนัดนี้

  1. อักเซล วิตเชล อดีตนักเตะโบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ กลับมาเจอทีมเก่า 
  2. การดวลกันของอดีตรองแชมป์ยูฟ่า แอตเลดิโก้ มาดริดอดีตรองแชมป์ 2 สมัย ส่วนโบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ เป็นอดีตรองแชมป์ 1 สมัย

การพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกช่วงที่ผ่านมา

ฤดูกาล 2017-2018 ในรอบแบ่งกลุ่ม

โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ ชนะ แอตเลดิโก้ มาดริด 4-0

แอตเลดิโก้ มาดริด ชนะ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ 2-0

คู่ที่ 4 ปารีส แซงค์-แชร์กแมง vs บาร์เซโลน่า

อ้างอิง: https://www.skysports.com/football/news/11945/10795006/barcelona-6-1-paris-saint-germain-aggregate-6-5-barca-advance-after-thrilling-win

นับเป็นคู่ที่น่าดูอีกคู่นึง เนื่องจากในคู่นี้เคยมีนัดปาฏิหาริย์โกงความตายของบาร์เซโลน่าที่สามารถพลิกกลับชนะได้ 6-1 จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ของเซอร์จี้ โรแบร์โต้ ทำให้บาร์เซโลน่าผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 6-5 แต่ทางปารีส แซงค์-แชร์กแมงก็สามารถล้างตาได้สำเร็จในปี 2020-2021 โดยสามารถเอาชนะและผ่านเข้ารอบได้ด้วยสกอร์รวม 5-2 เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่เจอกันทีไรมันส์ทุกที

สิ่งที่น่าสนใจในนัดนี้

  1. หลุยส์เอ็นริเก้ กุนซือคนปัจจุบันของปารีส แซงค์-แชร์กแมงที่เคยพาบาร์เซโลน่าคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกปี 2014-2015 กลับมาเจอทีมเก่า 
  2. อุสมาน เดมเบเล่ อดีตนักเตะของบาร์เซโลน่าที่เพิ่งย้ายทีมมาปารีสแซงค์-แชร์กแมงเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจะกลับมาเจอทีมเก่า 
  3. การดวลกันของหลุยส์เอ็นริเก้ ที่จะเจอกับอดีตนักเตะที่เคยคุม ที่ตอนนี้เป็นกุนซืออย่าง ชาบี เอร์นานเดซ

การพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกช่วงที่ผ่านมา

ฤดูกาล 2020-2021 พบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ปารีส แซงค์-แชร์กแมง เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1

บาร์เซโลน่า แพ้  ปารีส แซงค์-แชร์กแมง 1-4

(ปารีส แซงค์-แชร์กแมง เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-2) 

ฤดูกาล 2016-2017 พบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

นัดแรก ปารีส แซงค์-แชร์กแมง ชนะ บาร์เซโลน่า 4-0

นัดสอง บาร์เซโลน่า vs  ปารีส แซงค์-แชร์กแมง 6-1

(บาร์เซโลน่า เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 6-5) 

อันดับทีมเต็งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

ผลคำนวณจาก OPTA บริษัทที่เก็บข้อมูลและสถิติกีฬา ได้นำข้อมูลและความเป็นไปได้มาประเมินโอกาสการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกของแต่ละทีมหลังจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้าย

เต็ง 1 คือ แมนเชสเตอร์ซิตี้ โอกาสเป็นแชมป์ 29.46%

เต็ง 2 คือ ปารีส แซงค์-แชร์กแมง 16.15%

เต็ง 3 คือ เรอัล มาดริด โอกาสเป็นแชมป์ 13.06%

เต็ง 4 คือ อาร์เซน่อล โอกาสเป็นแชมป์ 10.92%

เต็ง 5 คือ บาเยิร์น มิวนิค โอกาสเป็นแชมป์ 9.39%

เต็ง 6 คือ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุน โอกาสเป็นแชมป์ 7.86%

เต็ง 7 คือ บาร์เซโลน่า โอกาสเป็นแชมป์ 7.11%

เต็ง 8 คือ  แอตเลติโก มาดริด โอกาสเป็นแชมป์ 6.05%

โดยการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจะแข่งขันนัดแรกกันในวันที่ 9-10 เมษายน 2567 และ นัดที่สองในวันที่ 16 กับ 17 เมษายนนี้ เรียกได้ว่าน่าสนุกทุกคู่ ก็ต้องมารอดูกันว่าทีมไหนบ้างที่จะสามารถผ่านเข้ารองชนะเลิศ หรือรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

Credit ข้อมูล: ณัฐพล กาญจนะคช