[บทความ] เคล็ดลับการเป็นแชมป์ฉบับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

“การเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การป้องกันแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า” หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดนี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่เกินจริงเพราะเวลาที่คุณขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุดแล้ว การที่จะรักษามาตรฐานและยืนระยะให้อยู่ในจุดที่สูงให้ได้นานที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย 

เราจะไปพาไปดูหนึ่งตัวอย่างที่ดี นั่นคือ สโมสรอย่าง ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 4 สมัยติดต่อกัน ว่าพวกเขามีปัจจัยหรือมีเคล็ดลับยังไงที่ยังสามารถรักษามาตรฐานให้ทีมประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง เราจะพาไปร่วมหาคำตอบกัน 

กุนซือที่ดี

สิ่งแรกที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ นั่นคือกุนซืออย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า เขาเป็นคนที่มีคุณสมบัติภาวะการเป็นผู้นำที่ดีอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น 

ความรู้ความสามารถในเรื่องฟุตบอล 

เป็ปเป็นคนที่มีความรู้เรื่องฟุตบอล แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ของโลกก็คงไม่เกินจริงนัก แต่เขาไม่เคยที่จะหยุดเรียนรู้ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ แม้ว่าแผนหรือแทคติกนั้นจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จเมื่อฤดูกาลก่อน แต่เป็ปก็จะพยายามมองหาจุดที่จะสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกอยู่เสมอ

จะเห็นได้ชัดว่า เป็ปมักจะเป็นคนที่นำเทรนด์ใหม่ ๆ มาให้โลกฟุตบอลเสมอ มีการปรับเปลี่ยนแผน วิธีการเล่น และรายละเอียดเล็ก ๆ ในเกม เช่น การใช้อินเวิร์ต ฟูลแบ็ก ที่ให้แบ็กหุบเข้ามาทำเกมตรงกลาง หรือการเอากองหลังดันขึ้นมาเป็นกองกลาง เป็นต้น 

เป็ปเคยให้สัมภาษณ์ว่าแทคติกฟุตบอลจะหยุดนิ่งไม่ได้ เพราะฟุตบอลมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทุกทีมจะมีวิวัฒนาการในการมารับมือกับเรา สิ่งสำคัญคือจะทำยังไงไม่ให้คู่แข่งตามทัน

แพสชันและความกระหายที่ไม่เคยหมด 

เป็ปเป็นคนที่มีแพสชันและความกระหายที่ไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่าจะประสบความสำเร็จมามากขนาดไหน ก็มักจะมีไฟและความมุ่งมั่นให้กับทีมอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่เราเห็นได้ทั้งในสนามและนอกสนาม เรามักจะเห็นภาพที่จบเกมแล้ว แต่เรียกนักเตะมาคุยแทคติก แม้ทีมจะชนะก็ตาม เป็นคนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดแม้จุดเล็ก ๆ

นักสื่อสารที่เก่ง 

เป็ปเป็นคนที่มีทักษะในการสื่อสารที่สุดยอดคนหนึ่ง มีวาทศิลป์ที่ดี ไม่ว่าเป็นการถ่ายทอดแทคติกวิธีการเล่นให้นักเตะเข้าใจ หรือ จิตวิทยาในการปลุกใจนักเตะ ซึ่งมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและสถานการณ์นั้น ๆ 

นักบริหารที่ดี 

เป็ปเป็นนักบริหารที่ดี การจัดการกับทีมที่มีนักเตะอยู่อย่างจำกัดกับโปรแกรมการแข่งของแมนฯ ซิตี้ที่ในแต่ละฤดูกาลมีไม่ต่ำกว่า 50 นัดไม่ใช่เรื่องง่าย การจัดตัวผู้เล่น การหมุนเวียนนักเตะจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องคำนึงปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน เช่น สภาพความฟิต ฟอร์มการเล่นในเวลานั้น ผู้เล่นที่เหมาะกับแทคติกในเกมนั้น เป็นต้น 

ขุมกำลังที่ดี

นอกจากการมีกุนซือที่ดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คือ ต้องมีขุมกำลังหรือตัวผู้เล่นที่ดีด้วย ซึ่งผู้เล่นของทีมแมนฯ ซิตี้นั้นอุดมไปด้วยนักเตะคุณภาพ ที่มีคุณสมบัติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น

ความสามารถ

แมนฯ ซิตี้มีทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะที่มีความสามารถในทุกตำแหน่ง มีคุณภาพในเชิงลึกที่ดี ไม่ว่าจะเป็น 11 ตัวจริงหรือตัวสำรอง พวกเขาสามารถหมุนเวียนและทดแทนกันได้หมด ทำให้สามารักษาสภาพร่างกายและความสม่ำเสมอในการยืนระยะได้ตลอดทั้งฤดูกาล

ทีมแมนฯ ซิตี้ถ้านับกันจริง ๆ นักเตะตัวหลักจะมีประมาณ 23 – 25 คน นอกนั้นจะเป็นเยาวชน แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เน้นปริมาณแต่เน้นไปที่คุณภาพ นอกจากนั้นผู้เล่นของแมนฯ ซิตี้เกือบทุกคนต้องมีความยืดหยุ่นหรือมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ใช่เล่นได้แค่ตำแหน่งเดียว เหมือนพนักงานบริษัทสมัยนี้ ต้องทำได้มากกว่าหนึ่งหน้าที่ 

ทัศนคติที่ดี

นักเตะของแมนฯ ซิตี้ต้องมีทัศนคติที่ดี มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้ความเคารพในตัวกุนซือ พร้อมรับฟังและนำมาปรับปรุงพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตัวอย่างผู้เล่นที่มีการยกระดับตัวเองขึ้นอย่างชัดเจน เช่น จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเดน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เป็นต้น

จิตใจที่นิ่ง

สิ่งที่ทำให้แมนฯ ซิตี้ แตกต่างจากทีมอื่นนั้นคือเรื่องจิตใจ พวกเขาสามารถซึมซับแรงกดดันได้ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากและกดดันขนาดไหน ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากประสบการณ์ที่ผ่านการแข่งขันที่กดดันมาหลายปี ทำให้พวกเขามีความสม่ำเสมอ สามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหลุดโค้งในช่วงสำคัญ แม้ในวันที่พวกเขาเล่นไม่ได้ดีที่สุด

ทีมงานบริหารหลังบ้านที่ดี

อีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้นั่นคือ ทีมงานบริหารหลังบ้าน โดยเริ่มตั้งแต่ประธานสโมสร บอร์ดบริหาร และพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่มีความทะเยอทะยาน พร้อมสนับสนุนกุนซือและนักเตะอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น

การซื้อตัวนักเตะ

ทีมแมนฯ ซิตี้ ขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนในการซื้อนักเตะอยู่แล้ว แม้จะเจอข้อครหาว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ การใช้เงินเยอะกว่า จะประสบความสำเร็จก็ไม่แปลก ซึ่งก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกทีมที่จะทำได้ มีเงินแต่ใช้ไม่เป็นก็เท่านั้น 

เราจะสังเกตได้ว่าผู้เล่นหลายคนที่แมนฯ ซิตี้ซื้อเข้ามามักจะไม่ค่อยพลาด ส่วนใหญ่ดึงเข้ามาแล้วใช้งานได้ทันที ตัวอย่างเช่น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, รูเบน ดิอาส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นต้น ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อนักเตะที่ค่าตัวสูงอย่างเดียว บางคนไม่ได้ซื้อแพงแต่ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดี เช่น ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ 

การวางโครงสร้าง 

แมนฯ ซิตี้มีการวางโครงสร้างที่ดีตั้งแต่การคัดสรรบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่, การลงทุนกับอะคาเดมีสโมสร, การสร้างเครือข่ายกับหลากหลายสโมสรทั่วโลก ทุกอย่างถูกทำขึ้นโดยมีแบบแผน สิ่งเหล่านี้ทำให้ฐานของทีมแมนฯ ซิตี้มีความแข็งแรงและสามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว

แนวคิดการเป็นผู้ชนะ

จากทั้งหมดที่กล่าวมาทั้ง กุนซือ นักเตะ และทีมงานบริหาร ทุกคนในทุกฝ่าย ต้องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีแนวคิดทัศนคติและเป้าหมายที่ไปในทิศทางเดียวกัน หรือเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กร ไม่ว่าจะเป็น

DNA ความเป็นผู้ชนะ 

ทุกคนที่สโมสรแมนฯ ซิตี้ต้องมีความเชื่ออยู่เสมอว่า พวกเขาสามารถเอาชนะได้ทุกทีมบนโลก โรดรี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งที่ทำให้แมนฯ ซิตี้แตกต่างจากทีมอื่นคือความคิดและสภาพจิตใจ โดยยกตัวอย่างว่าอาร์เซนอลในเกมที่เจอกันที่เอติฮัด สเตเดียม ฝั่งอาร์เซนอลเล่นเหมือนไม่อยากชนะ พอใจแค่ผลเสมอ ซึ่งโรดรี้คิดว่านักเตะแมนฯ ซิตี้ทุกคนไม่มีความคิดแบบนั้น

มูฟออนเร็ว

แมนฯ ซิตี้เป็นทีมที่เรียกได้ว่ามูฟออนเร็วทั้งกับความผิดหวังและความสำเร็จ ตัวอย่างคือเวลาที่พวกเขาพลาดแพ้คู่แข่ง พวกเขามักใช้เวลาไม่นานในการลืมความผิดหวังและเดินหน้าต่อ โฟกัสกับเกมต่อไปในทันที ไม่ปล่อยให้ฟอร์มหลุดนาน หรือในกรณีที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะไม่ยึดติดกับความสำเร็จนาน โดยจะโฟกัสไปที่ความสำเร็จที่ท้าท้ายกว่าอยู่เสมอ

ความทะเยอทะยาน

การรักษาความทะเยอทะยานหรือแรงกระหายไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฤดูกาลก่อนพวกเขาจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยการจบทริปเปิลแชมป์ แต่ที่แมนฯ ซิตี้พวกเขามักจะมองหาวิธีการที่จะไปยังจุดที่ดีกว่าในปัจจุบันอยู่เสมอ ตัวอย่างฤดูกาลนี้คือ ติดป้ายไว้ที่ห้องแต่งตัวว่ายังไม่มีทีมไหนที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 4 สมัยติดได้ เพื่อให้ทุกคนโฟกัสไปที่เป้าหมายเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นสร้างแพสชันเติมไฟให้กับทุกคนในสโมสร