ผลการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2023-2024 เป็นการแข่งขันระหว่าง ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด กับ ‘เสือเหลือง’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่สนามเเวมบลีย์ ผลปรากฏว่าเป็นทางราชันชุดขาวที่ทำได้เหนือกว่า เอาชนะไปได้อย่างสุดมัน 2-0
โดยในการแข่งขัน ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสี แต่เป็นฝั่งเรอัล มาดริดที่เป็นฝ่ายครองเกมมากกว่า แต่โอกาสเข้าทำน้อยกว่า ซึ่งสวนทางกับดอร์ทมุนด์ที่ครองเกมน้อย แต่มีโอกาสเข้าทำมากกว่า โดยในครึ่งแรกมีโอกาสยิงถึง 8 ครั้ง เข้ากรอบไป 3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถยิงผ่านมือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูของเรอัล มาดริดไปได้ ทำให้สกอร์ในครึ่งเวลาแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง ก็ยังเป็นฝั่งเรอัล มาดริดที่ครองบอลเดินหน้าเข้าใส่ มีโอกาสใกล้เคียงขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากประตูของดานี การ์บาฆาล ในนาทีที่ 74 ก่อนจะอาศัยโมเมนตัมเกมที่กำลังเข้าทางฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของเอียน แมตเซน ที่คืนหลังพลาด ทำประตูทิ้งห่างออกไป 2-0 จากประตูของวินิซิอุส จูเนียร์ในนาทีที่ 83 หลังจากนั้นทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ทำให้จบเกมด้วยสกอร์นี้
ส่งผลให้เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 15 นับเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุด และทำให้ เรอัล มาดริด จบฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นดับเบิลแชมป์ โดยแบ่งเป็นแชมป์ลาลีกา สเปน และแชมป์รายการนี้
สถิติที่น่าสนใจ
จบเกมนี้ ทำให้โทนี่ โครส ปิดฉากอาชีพการค้าแข้งกับเรอัล มาดริดอย่างสวยงาม โดยเจ้าตัวคว้าแชมป์รายการนี้ไปถึง 6 สมัย โดยแบ่งเป็นกับเรอัล มาดริด ไปถึง 5 สมัย และกับสโมสรเก่าอย่างบาเยิร์น มิวนิค 1 สมัย
ส่วนกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ ทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่พาทีมคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกมากที่สุด โดยคว้าไปถึง 5 สมัย ซึ่งแบ่งเป็นกับเรอัล มาดริด 3 สมัย และเอซี มิลาน 2 สมัย