ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 โซนเอเชีย กลุ่ม C นัดที่ 6 เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทย อันดับ 3 ของกลุ่มที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติสิงคโปร์ อันดับ 4 ของกลุ่ม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน สำหรับการแข่งขันในเกมนี้จะมีขึ้นในค่ำคืนวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 และ YouTube Changsuek Official
ฟอร์มการเล่นของทั้ง 2 ทีม
ทีมชาติไทย ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ – เสมอ 3 แพ้ 2
- เสมอ จีน 1-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
- แพ้ เกาหลีใต้ 0-3 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
- เสมอ เกาหลีใต้ 1-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
- แพ้ อุซเบกิสถาน 1-2 (เอเชียนคัพ)
- เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0 (เอเชียนคัพ)
ทีมชาติสิงคโปร์ ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ – เสมอ 1 แพ้ 4
- แพ้ เกาหลีใต้ 0-7 (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)
- แพ้ จีน 1-4 (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)
- เสมอ จีน 2-2 (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)
- แพ้ ไทย 1-3 (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)
- แพ้ เกาหลีใต้ 0-5 (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก)
สถิติ 5 นัดหลังที่เจอกัน
ไทยชนะ 5 นัด | เสมอกัน – นัด | สิงคโปร์ชนะ – นัด
- 21/11/2023 | สิงคโปร์ 1-3 ไทย (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
- 18/12/2021 | ไทย 2-0 สิงคโปร์ (เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ)
- 25/11/2018 | ไทย 3-0 สิงคโปร์ (เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ)
- 22/11/2016 | ไทย 1-0 สิงคโปร์ (เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ)
- 26/03/2015 | ไทย 2-0 สิงคโปร์ (อุ่นเครื่อง)
ตารางคะแนนฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กลุ่ม C
อันดับ | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ลูกได้ | ลูกเสีย | ลูกได้-เสีย | คะแนน |
1. เกาหลีใต้ | 4 | 1 | 0 | 19 | 1 | 18 | 13 |
2.จีน | 2 | 2 | 1 | 9 | 8 | 1 | 8 |
3.ไทย | 1 | 2 | 2 | 6 | 8 | -2 | 5 |
4.สิงคโปร์ | 0 | 1 | 4 | 4 | 21 | -17 | 1 |
เงื่อนไขการผ่านเข้ารอบ 18 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย
เงื่อนไขในคู่ระหว่างเกาหลีใต้กับจีน
- เกาหลีใต้ต้องชนะจีนเท่านั้น ถ้าจีนมีแต้มจะทำให้ไทยตกรอบทันที
เงื่อนไขในคู่ระหว่างไทยกับสิงคโปร์
- ไทยต้องชนะสิงคโปร์เท่านั้น และต้องยิงประตูให้มากที่สุดเพื่อแซงประตูได้เสียของจีนที่ตอนนี้ห่างกันอยู่ 3 ลูก หรือถ้ากรณีที่ลูกได้เสียเท่ากัน จะวัดกันที่จำนวนประตูที่ยิงได้
ตัวอย่างกรณีที่ต้องยิงแซงลูกได้เสีย
กรณีที่ 1 ถ้าเกาหลีใต้ชนะจีน 1-0 | ไทยต้องชนะสิงคโปร์ 3-0
กรณีที่ 2 ถ้าเกาหลีใต้ชนะจีน 2-0 | ไทยต้องชนะสิงคโปร์ 2-0
กรณีที่ 3 ถ้าเกาหลีใต้ชนะจีน 3-0 | ไทยต้องชนะสิงคโปร์ 1-0
ตัวอย่างกรณีที่ลูกได้เสียเท่ากันแต่ไทยผ่านเข้ารอบ
กรณีที่ 1 ถ้าเกาหลีใต้ชนะจีน 1-0 | ไทยต้องชนะสิงคโปร์ 4-2
กรณีที่ 2 ถ้าเกาหลีใต้ชนะจีน 2-0 | ไทยต้องชนะสิงคโปร์ 4-3
ความพร้อมเรื่องตัวผู้เล่น
ทีมชาติไทย
ผู้เล่นบาดเจ็บ : –
ผู้เล่นเช็กฟิต : ปฏิวัติ คำไหม
ทีมชาติสิงคโปร์
ผู้เล่นบาดเจ็บ : –
ผู้เล่นเช็กฟิต : –
11ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติไทย ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู: ปฏิวัติ คำไหม
กองหลัง: สันติภาพ จันทร์หง่อม, สุพรรณ ทองสงค์, เอเลียส ดอเลาะ, ธีราทร บุญมาทัน
กองกลาง: สารัช อยู่เย็น, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, สุภโชค สารชาติ, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์
กองหน้า: ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติสิงคโปร์ ระบบ 4-1-4-1
ผู้รักษาประตู: ฮัสซัน ซันนี่
กองหลัง: ฮาริส สจวร์ต, ไลโอเนล ตัน, ซาฟูวัน บาฮารูดิน, คริสโตเฟอร์ ฟาน ฮุยเซ็น
กองกลาง: ฮาริสส์ ฮารูน ไรอัน สจ๊วต, ฮามี ซาฮิน, ซอง อุย-ยอง, ชาห์ ชาฮิราน
กองหน้า: อิคซาน ฟานดี้
วิเคราะห์และฟันธงสกอร์
นับเป็นเกมที่สำคัญที่สุดสำหรับทีมชาติไทยต่อการผ่านเข้ารอบต่อไปในการลุ้นไปฟุตบอลโลก ทีมชาติไทยต้องชนะเท่านั้นและต้องยิงประตูให้มากที่สุดเพื่อแซงลูกได้เสียกับทีมชาติจีน ซึ่งสวนทางกับทีมชาติสิงคโปร์ที่ไม่มีลุ้นในการผ่านเข้ารอบแล้ว
รูปเกมในนัดนี้ทีมชาติไทยน่าจะเป็นฝ่ายครองเกมและเปิดเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้น ทีมชาติสิงคโปร์น่าจะต้องมาเน้นเกมรับแล้วรอสวนกลับ จุดสำคัญสำหรับทีมชาติไทยคือประตูแรกต้องมาให้เร็วที่สุดเพื่อลดแรงกดดันและสร้างโมเมนตัมให้เข้าทางฝั่งตัวเอง
เกมในนัดนี้ถ้าดูในภาพรวม โอกาสที่ทีมชาติไทยจะชนะค่อนข้างสูง โดยดูจากความได้เปรียบในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความได้เปรียบในการเล่นในบ้าน สถิติการพบกัน และฟอร์มการเล่นในช่วงหลัง ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าเป็นงานยากสำหรับทีมชาติไทย แต่ก็ต้องเล่นด้วยความละเอียดและไม่ประมาท ถ้าทำได้คิดว่าทีมชาติไทยมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปได้
ฟันธงสกอร์ : ไทย 3-0 สิงคโปร์