จากเหตุการณ์ที่ เมริห์ เดมิรัล กองหลังทีมชาติตุรกี ฉลองประตูด้วยท่าหมาป่า ในเกมฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง ออสเตรีย กับ ตุรกี ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 2-1 โดยในเกมนี้ เดมิรัล มีชื่อทำทั้ง 2 ประตู และ ได้ฉลองประตูด้วยท่าหมาป่า จนเป็นเหตุทำให้ สหพันธ์ ฟุตบอล ยุโรป หรือ ยูฟ่าสั่งลงดาบแบน เดมิรัล 2 นัด
ซึ่งส่งผลทำให้เขาจะหมดสิทธิ์ลงช่วยทีมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะเจอกับ เนเธอร์แลนด์ แน่นอนแล้ว อีกทั้งหากตุรกีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ก็จะไม่สามารถลงช่วยทีมได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีเดียวที่จะกลับมาลงสนามได้ในยูโรครั้งนี้ คือตุรกีต้องผ่านเข้าชิงชนะเลิศเท่านั้น
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่าดีใจหมาป่าเป็นท่าต้องห้ามในประเทศเยอรมนี จนเป็นเหตุให้ถูกทางยูฟ่าต้องสั่งแบน เราจะพาไปหาคำตอบกัน
สาเหตุที่ท่าหมาป่าโดนแบน
การฉลองประตูของ เมริห์ เดมิรัล กองหลังทีมชาติตุรกี ที่ฉลองประตูด้วยท่าหมาป่า ด้วยการใช้นิ้วชี้กับนิ้วก้อยชี้ขึ้นประกอบเป็นหู และใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลางและนิ้วนางประกอบเป็นจมูก ถือเป็นท่าดีใจต้องห้ามในหลายประเทศทั้ง เยอรมนี ฝรั่งเศส และ ออสเตรีย
เนื่องจากถูกมองว่าคล้ายสัญลักษณ์มือที่โยงถึง ‘กลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์’ กลุ่มการเมืองขวาจัดในตุรกี โดยในเยอรมนีนั้นถือว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนหัวรุนแรง มีอุดมการณ์ชาตินิยมและเหยียดเชื้อชาติ อีกทั้งยังมีประวัติการก่อการร้ายในหลายพื้นที่ ทำให้รัฐบาลเยอรมันพิจารณาแบน เพื่อแสดงจุดยืนในการไม่สนับสนุนกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์
กลุ่มเกร์ย วูล์ฟ คือใคร ?
กลุ่ม ‘เกร์ย วูล์ฟ’ (Grey Wolves) หรือ หมาป่าสีเทา มีชื่อเป็นทางการว่า ‘อุลคู โอกาคลารี’ เป็นองค์กรชาตินิยมชาวเติร์กฝ่ายขวาจัดในตุรกีที่มีแนวคิด ชาตินิยม และ อิสลามนิยม แบบสุดโต่ง
ถูกก่อตั้งโดยพันเอก อัลพาร์สลัน เตอร์กีส ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นกลุ่มยุวชนติดอาวุธของ พรรคขบวณการชาตินิยม (MHP) และ เป็นกองกำลังหลักของฝ่ายชาตินิยมในยุคที่เกิดความรุนแรงทางการเมืองในตุรกี
ซึ่งพวกเขามีสัญลักษณ์มือเป็นท่าหมาป่า ตามชื่อของกลุ่ม โดยผู้ก่อตั้งได้ให้ความหมายของสัญลักษณ์นี้ไว้คือ “นิ้วก้อยเป็นสัญลักษณ์ของชาวเติร์ก นิ้วชี้เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และจุดที่นิ้วสามนิ้วที่เหลือเชื่อมกันคือรอยประทับ ซึ่งรวมกันหมายความว่า กลุ่มเกร์ย วูล์ฟจะประทับตราสัญลักษณ์ตุรกี และ อิสลามให้โลกใบนี้
ด้วยอุดมการณ์ที่สุดโต่งทำให้ กลุ่มเกร์ย วูล์ฟ นั้นมีความโหดร้ายเป็นอย่างมากกับฝั่งที่อยู่ตรงข้ามพวกเขา โดยในช่วงสงครามกลางเมืองในตุรกีในค.ศ. 1976 -1980 พวกเขาได้ทำการสังหารนักศึกษา และ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายเสรีนิยม ไปมากถึง 694 คน อีกทั้งยังสังหารชาวเคิร์ดและชาวคริสเตียนอีกเป็นจำนวนมาก
ความโหดร้ายของกลุ่มเกร์ยวูล์ฟ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พวกเขายังมีประวัติการก่อการร้ายอีกหลายคดี โดยไล่ตั้งแต่
- ในปี 1977 ถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสทักซิมในอิสตันบูล
- ในปี 1978 สังหารหมู่ชาวอลาวีหลายร้อยคนที่เมืองมาราส
- ในปี 1981 พยายามลอบสังหารพระชนม์ชีพของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2
- ในปี 1988 พยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เตอร์กุต โอซาล แห่งตุรกี
- ในปี 1995 มีส่วนเกี่ยวข้องในการพยายามรัฐประหารในอาเซอร์ไบจาน
- ในปี 2015 ถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ วางระเบิดในกรุงปารีส
- ในปี 2015 ถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางระเบิดที่ ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร
ในปัจจุบันกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส ได้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการไปยังรัฐต่างๆ และ มีสาขาในยุโรปตะวันตกหลายประเทศที่มีชาวเติร์กอาศัยอยู่ เช่น เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย และ เยอรมนี โดยมีสมาชิกในกลุ่มรวมมากกว่า 10,000 คน ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ต้องคอยระมัดระวังอย่างใกล้ชิด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่าหมาป่าที่แสดงถึงกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส จึงเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศเยอรมนี