เรื่องราวประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลในรอบสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้น ประเด็นของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ คดี 115 กระทงที่ถูกทางพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหา ซึ่งล่าสุดในช่วงวันจันทร์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ก็ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ได้มีกระแสข่าวตามมาถึงบทลงโทษที่ทาง แมนฯ ซิตี้ จะโดนลงโทษ โดยคาดกันว่าอาจหนักถึงขั้นโดนตัดสิทธิ์ออกจากทุกการแข่งขันเลยทีเดียว

อะไรที่ทำให้แมนฯ ซิตี้ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงเช่นนี้ ทำไมพรีเมียร์ลีกถึงต้องตั้งข้อหาแมนฯ ซิตี้ และสุดท้ายแมนฯ ซิตี้จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากทุกการแข่งขันจริงไหม เราจะพาไปหาคำตอบกัน  

ทำไมถึงโดนพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหา

สาเหตุที่ทำให้ทางพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหา แมนฯ ซิตี้ เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2009 ในช่วงที่ ชีค มันซูร์ เจ้าของแมนฯ ซิตี้ เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรในช่วงแรก ๆ ซึ่งหลังการเข้ามา ชีค มันซูร์ ก็มีความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานในการทำให้แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนสถานะทีมจากทีมกลางตารางกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เต็มตัว จึงพยายามอัดฉีดเงินส่วนตัวเข้าสู่สโมสรเป็นจำนวนมาก

โดยมีการโยกเงินจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา ด้วยวิธีการที่ให้บริษัทที่ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาเป็นสปอนเซอร์สโมสร ตัวอย่างเช่น สายการบิน Etihad airways ที่พี่ชายของชีค มันซูร์เป็นเจ้าของอยู่ เป็นต้น นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังมีพฤติกรรมที่ทางพรีเมียร์ลีกมองว่าเข้าค่ายการกระทำผิดอีก ไม่ว่าเป็น การปลอมแปลงตัวเลขในการลงบัญชีค่าจ้างผู้จัดการทีมที่น้อยเกินความเป็นจริง 

ในกรณีของ เรอแบโต็ มันชินี่ กุนซือชาวอิตาเลียน ในฤดูกาล 2009-2010 จนถึง ฤดูกาล 2012-2013 เป็นต้น รวมไปถึงการปลอมแปลงตัวเลขค่าเหนื่อยนักเตะที่ไม่เป็นจริง ในกรณีของ ยาย่า ตูเร่ ตำนานกองกลางของทีม ในฤดูกาล 2010-2011 จนถึง ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น แมนฯ ซิตี้ ยังมีข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงในการละเมิดทั้งกฎการเงินพรีเมียร์ลีกและกฎการเงินยูฟ่าอีก

จนถึงขั้นครั้งนึงทางแมนฯ ซิตี้ เคยถูกตั้งหาจากทางยูฟ่ามาแล้วในปี 2020 และได้ถูกสั่งแบนห้ามไม่ให้ลงแข่งในรายการฟุตบอลยุโรปเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่แมนฯ ซิตี้จะยื่นเรื่องต่อศาลกีฬาโลก โดยโต้แย้งว่าข้อมูลที่ทางยูฟ่าได้มานั้นมาจากแหล่งที่ไม่ถูกต้อง และ คดีเหล่านั้นหมดอายุความแล้ว ทำให้แมนฯ ซิตี้ชนะคดีมาได้

ซึ่งจากการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ทำให้ทางพรีเมียร์ลีกจับตามองแมนฯ ซิตี้มาโดยตลอด ซึ่งได้เริ่มสืบหาและเก็บรวบรวมหลักฐานแบบลับ ๆ เป็นเวลาหลายปี เพื่อไม่ให้แมนฯ ซิตี้รอดพ้นจากคดีเหมือนในกรณีของยูฟ่า จนกระทั่งในปี 2023 ทางพรีเมียร์ลีกจึงได้ออกประกาศตั้งข้อหาแมนฯ ซิตี้ 115 กระทง จากการกระทำความผิดตลอดเวลา 9 ฤดูกาลเต็ม ไล่ตั้งแต่ฤดูกาล 2009-2017  

แมนฯ ซิตี้ โดนข้อหาอะไรบ้าง

จำนวนคดีที่พรีเมียร์ลีกตั้งข้อหาจำนวน 115 กระทง สามารถแบ่งเป็น 5 ข้อหาใหญ่ได้ดังนี้

  1. การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนบัญชีรายรับและรายจ่ายสโมสร จำนวน  54 กระทง
  2. การจัดทำบัญชีที่ไม่โปร่งใส ในส่วนค่าจ้างผู้จัดการทีมและค่าเหนื่อยนักเตะ จำนวน 14 กระทง
  3. ละเมิดกฎการเงินของยูฟ่า (FFP) จำนวน 5 กระทง
  4. ละเมิดกฎการเงินของพรีเมียร์ลีก (PSR) จำนวน 7 กระทง
  5. ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ 35 กระทง

สุดท้ายจะจบลงอย่างไร

หลังจากที่ถูกตั้งข้อหา 115 กระทง ทางแมนฯ ซิตี้ก็ไม่อยู่เฉย พยายามออกมาปฏิเสธถึงข้อกล่าวหาทั้งหมดมาโดยตลอด และยืนยันเสียงแข็งว่าพวกเขาสุจริต ไม่มีการละเมิดกฎใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งทางแมนฯ ซิตี้ก็ได้จ้าง ลอร์ด เดวิด แพนนิค ทนายความมือดีที่ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการโดนลงโทษจากยูฟ่ามาแล้ว มาต่อสู้คดีในครั้งนี้

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ศาลได้เริ่มไต่สวนคดีนี้เป็นที่เรียบร้อย โดยสื่อต่างประเทศคาดการณ์กันว่า คดีน่าจะได้ข้อสรุปเร็วสุด ในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า และ ได้มีการคาดการณ์ถึงบทลงโทษหากว่าแมนฯ ซิตี้ มีความผิดจริงว่าอาจจะโดนลงโทษหนักถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ออกจากทุกการแข่งขันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากทุกการแข่งขัน เป็นประเด็นที่ข่าวหยิบยกมาเพื่อให้ข่าวมีความน่าสนใจ ในการดีงยอดengagement เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วแมนฯ ซิตี้จะโดนลงโทษมากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับความผิดที่ทางแมนฯ ซิตี้ได้กระทำลงไป โดยบทลงโทษมีตั้งแต่ การปรับเงิน การตัดแต้ม การปรับตกชั้น และรวมไปถึงการถูกตัดสิทธิ์ออกจากทุกแข่งขัน ซึ่งหากผิดจริงทั้งหมด 115 กระทงก็มีโอกาสที่จะถูกตัดสิทธิ์ตามที่กระแสข่าวได้ออกมาเช่นกัน