กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตซอลที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับเหตุการณ์การแข่งขัน ระหว่าง อิหร่าน พบกับ ฝรั่งเศส ใน ศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่อัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมา แฟนฟุตซอลทั่วโลกต่างรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ในการที่ทั้งสองทีมตั้งใจเล่นเพื่อล็อกผลการแข่งขัน ต่างฝ่ายต่างอยากแพ้ เพื่อที่ต้องการมาเจอกับทีมชาติไทย ในรอบน็อกเอาต์
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ทำไมทั้งสองทีมถึงทำอย่างนั้น เราจะพาไปหาคำตอบกัน
แมตช์สุดอัปยศ
แมตช์สุดอัปยศนี้เกิดขึ้นในศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2024 นัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F เกมระหว่าง อิหร่าน (ทีมอันดับ 4 ของโลก) พบกับ ฝรั่งเศส (ทีมอันดับ 10 ของโลก) ซึ่งสถานการณ์ก่อนเกมหลังผ่าน 2 นัดแรกคือ ทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบแล้วด้วยกันทั้งคู่ด้วยการมี 6 คะแนนเต็ม แต่อิหร่านรั้งอันดับ 1 เนื่องจากลูกได้เสียที่ดีกว่า ฝรั่งเศส ที่อยู่ในอันดับที่ 2 อยู่ 4 ลูก ทำให้นัดที่ 3 จึงกลายเป็นนัดตัดสินแชมป์กลุ่มไปโดยปริยาย ซึ่งหากใครชนะจะเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะอันดับ 1 ของกลุ่ม
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของเรื่องนี้คือ ทั้งสองทีมต่างไม่อยากจบลงด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เนื่องจากต้องการหลีกหนี เส้นทางในรอบน็อกเอาต์ ที่หากจบในอันดับ 1 ของกลุ่ม ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเข้าไปเจอกับ โมร็อกโก (ทีมอันดับ 6 ของโลก) และหากผ่านไปได้ยังมีโอกาสได้เจอกับ บราซิล (ทีมอันดับ 1 ของโลก) อีก
แต่หากจบอันดับ 2 ของกลุ่ม ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเข้าไปเจอกับ ไทย (ทีมอันดับ 9 ของโลก) และหากผ่านรอบไปได้ ก็จะเจอกับ ปารากวัย (ทีมอันดับ 13 ของโลก) หรืออัฟกานิสถาน (ทีมอันดับ 30 โลก) ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกัน การจบอันดับ 1 ของกลุ่ม เส้นทางในรอบน็อกเอาต์จะเจองานยากกว่าชัดเจน
แน่นอนว่างานนี้ทำให้ทั้งสองทีมจึงพยายามเล่นกันแบบไม่มีใครอยากชนะ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ประหลาดมากมาย ในช่วงครึ่งแรก คือทั้งสองฝ่ายพยายามเคาะบอลกันอย่างเดียวอยู่หลายนาทีแต่ไม่พยายามบุกเพื่อทำประตู
รวมไปถึงมีจังหวะที่ผู้รักษาประตูอิหร่านตั้งใจครองบอลหน้าประตูเกิน 4 วินาทีทำให้เสียฟรีคิก 2 จังหวะ ซึ่งฝั่งฝรั่งเศสรู้ทันก็เลยตั้งใจยิงไม่ให้เข้ากรอบ ในขณะที่ฝรั่งเศสก็ไม่น้อยหน้าเสียฟรีคิก 2 จังหวะเหมือนกัน แต่ฝั่งอิหร่านก็ตั้งใจยิงหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ไม่เพียงเท่านั้น ฝั่งอิหร่านยังพยายามเอาผู้รักษาประตูดันขึ้นมาต่อบอลถึงกลางสนามหลายจังหวะ แต่ฝั่งฝรั่งเศสก็มีความกระตือรือร้นที่จะบีบแย่งบอลกลับครอง ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
ซึ่งหลังการกระทำที่สุดแสนน่าอับอายนี้ ทำให้แฟน ๆ ในสนามเริ่มเกิดความไม่พอใจ พร้อมใจกันโห่แบบสุดเสียง อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลัง ก็ได้มีจังหวะที่แย่ลงไปอีก ในจังหวะที่ ซาลาร์ อักห์อาปัวร์ ผู้เล่นฝั่งอิหร่านยิงบอลไปตรงตัว ตีโบต์ การ์รอส ผู้รักษาประตูฝั่งฝรั่งเศส แต่เจ้าตัวกลับยืนตรงหุบขา ปล่อยให้บอลเข้าประตูไปแบบหน้าตาเฉย ทำให้อิหร่านออกนำไป 1-0
มาถึงจุดนี้ ฝั่งอิหร่านไม่มีทางเลือกแล้วเพราะหากฝืนเล่นอย่างเดิมจะมีแต่เสียกับเสีย การจะยิงเข้าประตูตัวเองก็จะดูจงใจเกินไป จึงเลือกที่จะเปิดเกมรุกเข้าใส่ฝรั่งเศสแบบเต็มรูปแบบก่อนจะมาได้ประตูเพิ่มอีก 3 ลูก ส่วนฝั่งฝรั่งเศสได้คืนมา 1 ลูกในช่วงท้ายเกม ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 4-1 อิหร่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มจะเข้าไปเจอกับ โมร็อกโก ส่วนฝรั่งเศสเข้ารอบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มจะเข้าไปเจอกับไทย
กระแสหลังเกม
แน่นอนว่าด้วยการเล่นที่ไร้สปริตและไม่สมศักดิ์ศรีแบบนี้ แฟนฟุตซอลทั่วโลกต่างรับไม่ได้กับการกระทำ กระแสหลังเกมจึงออกมาแบบเดือดสุด ๆ มีทั้งการด่าทอ วิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงเกิดกระแสเชียร์ทีมชาติไทยจากแฟนฟุตซอลทั่วโลกให้ล้มทางฝั่งฝรั่งเศสให้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นด้าน ริคาร์โด อินิเญซ โค้ชฟุตซอลทีมชาติลิเบีย แม้จะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะลิเบียตกรอบแรกไปแล้ว แต่ก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์เช่นนี้ ที่ส่งผลให้วงการฟุตซอลเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้ยื่นฟ้องต่อฟีฟ่าในข้อหาล็อกผลการแข่งขัน
ในขณะที่ด้าน มิเกล โรดริโก โค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย ก็ได้โพสต์เดือดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “พวกคุณทำสิ่งที่โคตรน่าละอาย พวกคุณไม่ควรเหยียบสนามฟุตซอลอีกตลอดชีวิต คุณเป็นตัวแทนที่ตรงข้ามกับคำว่า แฟร์เพลย์ รวมถึงการเป็นนักกีฬาที่เป็นมืออาชีพ พวกคุณควรอายนะ เมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติของตัวเองจากแฟน ๆ ที่กำลังเชียร์พวกคุณอยู่ ผมรังเกียจพวกคุณ พวกคุณได้สูญเสียความเคารพในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพและนักกีฬาจากผมไปแล้ว”
ในท้ายที่สุด ทั้งสองทีมจะโดนบทลงโทษหรือไม่ก็ต้องรอติดตามชม ซึ่งล่าสุดทางฟีฟ่าได้รับเรื่องแล้ว และกำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบอยู่ แต่ทั้งนี้ทีมชาติไทยต้องพยายามโชว์ศักยภาพออกมาให้ดีที่สุดในวันที่ 27 กันยายนนี้ ที่จะเจอกับฝรั่งเศส เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิดที่พยายามเลี่ยงมาเจอกับทีมชาติไทย ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทยให้ล้มฝรั่งเศสไปด้วยกัน