นับเป็นเรื่องราวประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในช่วงไม่กี่วันมานี้ สำหรับเหตุการณ์ที่ ‘เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ สุดยอดตำนานกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนปลดออกจากการเป็นทูตสโมสร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน ด้วยความที่ เซอร์ อเล็กซ์ เปรียบเสมือน ไอคอนและปูชนียบุคคลของแมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลจำนวนมาก
ซึ่งอะไรเป็นสาเหตุทำให้บอร์ดบริหารแมนยู (INEOS) ตัดสินใจแบบนี้ การปลดเซอร์ อเล็กซ์ สมควรแล้วจริงหรอ และ เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร เราจะพาไปหาคำตอบกัน
การเข้ามาของกลุ่ม INEOS
นับตั้งแต่การเข้ามาซื้อหุ้นสโมสรของกลุ่มทุน INEOS ที่นำโดย เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายภายในสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหาร, นโยบายการทำทีม, การเซ็นสัญญานักเตะ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายของสโมสร
กลุ่ม INEOS มีความตั้งใจและพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายของสโมสรที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้สโมสรมีตัวเลขขาดทุนน้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกฎการเงินพรีเมียร์ลีก(PSR) ส่งผลให้เหล่าผู้บริหารและพนักงานทั่วไปได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า ไล่ตั้งแต่
- การยกเลิกคนขับรถส่วนตัวของผู้บริหารสโมสร
- การยกเลิกบัตรเครดิตของทางบริษัท
- การยกเลิกรถบัสที่จะพาพนักงานไปชมการแข่งขันในเกมเยือน
- การยกเลิกตั๋วฟุตบอล ที่พนักงานสามารถนำไปให้ผู้ติดตามได้
- การยกเลิกอาหารกลางวันของทีมงานในแมตช์เดย์
- การยกเลิกปาร์ตี้คริสต์มาสของพนักงาน
- การปลดพนักงานรวมทั้งสิ้น 250 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การปลด เซอร์ อเล็กซ์ ออกจากตำแหน่งทูตสโมสร
สาเหตุที่ปลด เซอร์ อเล็กซ์
นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็ก วางมือจากเป็นกุนซือของแมนฯยูไนเต็ด ในปี 2013 หลังจากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ก็ได้ถูกแต่งตั้งเป็น ผู้อำนวยการสโมสร และ ทูตสโมสร ตั้งแต่ในปีนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติสิ่งที่เซอร์ อเล็กซ์ได้สร้างมา โดยรายได้ที่เซอร์ อเล็กซ์ ไดรับของ 2 ตำแหน่งนี้ อยู่ที่ปีละ 2.16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 93 ล้านบาท) ซึ่งถ้านับรวมทั้งหมดจนถึงตอนนี้ 11 ปีเต็ม แมนฯ ยูไนเต็ด เสียเงินตรงนี้ไปแล้วกว่า 23.76 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,023 ล้านบาท)
ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นว่า กลุ่ม INEOS มีความต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปเจรจาหารือร่วมกับเซอร์ อเล็กซ์ โดยตรง พร้อมบอกเหตุผล และ สถานการณ์ทีมในขณะนี้ว่าทางสโมสรจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายจริง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎการเงินพรีเมียร์ลีก ตามรายงานระบุว่า ทางฝั่งเซอร์ อเล็กซ์ก็เข้าใจ และ ไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจแต่อย่างไร โดยยินยอมยุติสัญญาหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้
กระแสหลังการปลด เซอร์ อเล็กซ์
แน่นอนว่าหลังจากที่ข่าวปลด เซอร์ อเล็กซ์ หลุดออกมา ก็ได้เกิดกระแสแฟนบอลที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝั่งกระแสแฟนบอลที่เห็นด้วย ก็มองว่าในแง่ของธุรกิจ การลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออกเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพื่อที่จะเอาเงินในส่วนนี้ไปพัฒนาในส่วนอื่น ๆ อีกทั้ง เซอร์ อเล็กซ์ อายุก็จะ 83 แล้ว แฟนบอลควรมูฟออนและเดินหน้าสู่ยุคใหม่ได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ดี กระแสแฟนบอลอีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วย ก็มองว่าสิ่งที่ เซอร์ อเล็กซ์ ทำอะไรให้กับสโมสรมามากมาย กับเงินแค่ 2.16 ล้านปอนด์ต่อปี กับสโมสรระดับแมนฯยูไนเต็ด ไม่น่าหนักหนาเกินไป การกระทำในครั้งนี้มันเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติกับบุคคลที่สร้างแมนยูไนเต็ดมาเกือบทั้งชีวิตของเขา
ด้าน เอริค คันโตน่า ตำนานสโมสรได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นไว้ว่า
“เซอร์ อเล็กซ์ สามารถทำอะไรก็ได้ ที่เขาต้องการกับสโมสรนี้ จนถึงวันที่เขาจากโลกนี้ไป นี่คือการกระทำที่ขาดความเคารพอย่างสิ้นเชิง เซอร์ อเล็กซ์ จะเจ้านายของผมตลอดไป ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือ (บอร์ดบริหาร) กูอยากโยนพวกมันทิ้งลงถุงขี้ให้หมด”
การปลดเซอร์ อเล็กซ์ สมควรแล้วจริงหรอ
คำตอบของคำถามนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละคนที่มอง ซึ่งถ้ามองในเรื่องธุรกิจก็สิ่งที่เข้าใจ เนื่องจากในปัจจุบันกฎการเงินพรีเมียร์ลีกเข้ามามีบทบาทจำนวนมากต่อการตัดสินใจในหลาย ๆ เรื่อง การที่สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นลงได้ ก็เป็นเรื่องปกติที่หลายสโมสรจำเป็นต้องทำ แต่ถ้ามองในแง่ของความรู้สึก ก็เข้าใจได้ที่แฟนบอลบางส่วนรวมไปถึงตำนานสโมสรจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายในเมื่อบอร์ดบริหารได้ตัดสินใจไปแล้ว ก็ต้องยอมรับและมูฟออนเดินหน้าต่อไป