[บทความ] ดราม่าวงการมวย ‘โจ ณัฐวุฒิ’ แฉ บริษัทของ ‘อองตวน’ หลังถูกโกงเงินค่าตัว 

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในวงการมวย ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับเหตุการณ์ของ ‘โจ ณัฐวุฒิ’ นักมวยไทยสังกัด ONE วัย 35 ปี ที่ได้ออกมาพูดเปิดใจถึงประเด็นที่เจ้าตัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของบริษัท UPR VISION ENTERTAINMENT ที่มี ‘อองตวน ปินโต’ อดีตนักมวยไทยชื่อดัง เป็นกรรมการบริหาร ในกรณีที่ตัวเขาไม่ได้รับเงินค่าตัวจากการรับงานตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา จนเกิดกลายเป็นดราม่านี้ขึ้น

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร เราจะพาไปไล่เลียงกัน 

บริษัท UPR คืออะไร

บริษัท UPR VISION ENTERTAINMENT เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตสื่อต่าง ๆ ทั้งในโทรทัศน์และทางยูทูบ ที่มี อองตวน ปินโต อดีตนักมวยไทยชื่อดัง เป็นกรรมการบริหาร โดยนอกจากจะผลิตสื่อแล้ว ยังดำเนินงานเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนหรือเอเจนต์นักมวย โดยมีหน้าที่ในการดูแลจัดการสิทธิประโยชน์และรับงานต่าง ๆ นอกสังเวียน

โดยก่อนหน้านี้ทาง โจ ณัฐวุฒิ ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าไปเป็นหนึ่งในนักมวยในความดูแลของ บริษัท UPR โดยได้เซ็นสัญญากันหลังจบไฟต์ที่ โจ ณัฐวุฒิ พบกับ ตะวันฉาย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวความขัดแย้ง จนเป็นเหตุให้ยกเลิกสัญญา

โจ ณัฐวุฒิ กับ บริษัท UPR ขัดแย้งอะไรกัน

ประเด็นความขัดแย้งระหว่าง โจ ณัฐวุฒิ กับ บริษัท UPR สามารถแบ่งเป็นประเด็นหลัก ๆ ได้ 2 ประเด็น คือ

1. ประเด็นการขายเสื้อแคมเปญ UPR X JO NATTAWUT

2. ประเด็นเรื่องค่าจ้างในงานน้องควาย

ในประเด็นความขัดแย้งแรกต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ทาง โจ ณัฐวุฒิ ได้เซ็นสัญญากับ บริษัท UPR ได้เพียง 3 เดือน ก็ได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกสัญญา หลังเห็นความผิดปกติบางอย่าง ในประเด็นการขายเสื้อแคมเปญ UPR X JO NATTAWUT ที่ตัวเขาและบริษัทได้ทำร่วมกัน โดย โจ ณัฐวุฒิ ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุไว้ว่า

นับเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในครั้งนี้ ก่อนที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ทาง โจ ณัฐวุฒิ จะได้ออกมาเปิดใจกับช่องยูทูบ พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร ถึงอีกประเด็นหนึ่ง คือประเด็นงานน้องควาย ที่ โจ ณัฐวุฒิ เป็นพรีเซนเตอร์ แต่ว่าตัวเขากลับไม่ได้รับเงินค่าตัวตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ที่ระบุในสัญญาว่า ทางบริษัท UPR จะได้รับส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทางโจ ณัฐวุฒิ จะได้รับส่วนแบ่ง 70 เปอร์เซ็นต์

ด้าน ‘พ่อเลี้ยงเจ’ เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม ผู้ว่าจ้างงานน้องควาย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขาได้จ้างให้ โจ ณัฐวุฒิ เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์เสื้อผ้า โดยจ้างไปเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท แต่ทางบริษัทกลับแจ้ง โจ ณัฐวุฒิ ว่าได้รับเงินแค่ 75,000 บาท ซึ่งในท้ายที่สุดต้องโดนหักส่วนแบ่งไปอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เงินตกถึงมือ โจ ณัฐวุฒิ จริง ๆ แค่ 50,000 บาทเท่านั้น จากที่ต้องได้รับ 140,000 บาท

บริษัท UPR ออกมาชี้แจงว่าอย่างไร

หลังจากโดนกระแสโจมตีอย่างหนักบนโลกออนไลน์ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท UPR ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวโดยมีเนื้อหาใจความว่า

1. ประเด็นการขายเสื้อ UPR X JO Nattawut

บริษัท UPR ระบุว่า สัญญาที่เกี่ยวกับการขายเสื้อระหว่าง บริษัท และ โจ ณัฐวุฒิ นั้นได้หมดอายุก่อนวันที่ โจ จะโพสต์ประกาศยุติสัญญา ส่วนเรื่องที่ โจ โพสต์ว่าพบความผิดปกติเกี่ยวกับแคมเปญขายเสื้อนี้ ทางบริษัท UPR ชี้แจงว่า

• เกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการนับสต๊อกสินค้า ทำให้ โจ ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
• ทางทนายของบริษัท ได้มีการติดต่อกับ โจ โดยตรงเพื่อชี้แจง แต่สุดท้ายไม่สามารถสื่อสารและแก้ปัญหากันได้
• บริษัทได้เสนอให้ โจ หาทนายเพื่อมาร่วมเจรจา และตรวจสอบสต๊อกสินค้า แต่ โจ ไม่ได้ให้ความร่วมมือ
• ขอชี้แจงว่า บริษัทได้ทำการจ่ายเงินเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว

2. ประเด็นเรื่องค่าตัวน้องควาย

ทางบริษัท UPR ชี้แจงว่า บริษัทได้เจรจาตกลงค่าตัวกับผู้จัดการของ โจ ณัฐวุฒิ เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะรับงานนี้ ซึ่งสาเหตุที่ทางโจได้รับค่าตัวแค่ 50,000 บาท ทางบริษัทชี้แจงว่าเกิดจากบริษัทต้องหักเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานทั้งหมดเพื่อให้การทำงานเป็นไป อย่างราบรื่นและเป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้

โดยที่สัญญาดังกล่าว เป็นสัญญาระหว่างลูกค้าและบริษัท UPR Vision Entertainment โดยตรง ไม่ได้เป็นการทำกับ โจ ณัฐวุฒิ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการตรวจสอบและชำระเงินส่วนต่างทั้งหมดให้กับ โจ เรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการออกมาชี้แจง

หลังจากที่บริษัท UPR ได้ออกมาแถลง ก็ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ เนื่องจากทางด้าน โจ ณัฐวุฒิ ก็ยังรู้สึกไม่เคลียร์ในบางประเด็น และมีคำถามที่อยากถามบริษัท UPR อยู่ โดยที่เจ้าตัวบอกว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เวลา 17.00 น. ที่สนามมวยลุมพินี

นอกจากนี้ทางด้าน พ่อเลี้ยงเจ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงสิ่งที่ บริษัท UPR ได้แถลงออกมา ถึงประเด็นงานน้องควายที่ตัวเขาเป็นผู้ว่าจ้าง ใจความว่า ตกลงเงินค่าตัวที่ตกลงในสัญญา เป็นค่าตัวที่ใครเสนอกันแน่ เพราะตัวเขาได้จ้างโจ ผ่านบริษัท UPR เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท แต่ทางบริษัท UPR กลับเสนอเงินให้โจเพียง 75,000 บาท โดยมีส่วนต่างถึง 125,000 บาท

ซึ่งสิ่งที่เป็นคำถามคือถ้าบอกว่าเงินจำนวน 125,000 บาท เป็นค่าดำเนินการในการดูแล ค่าดูแลอะไรทำไมถึงหมดเป็นแสน เพราะตัวเขามีการเตรียมสถานที่ อาหาร เครื่องดื่ม และอุปกรณ์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่บริษัท UPR เตรียมมีแค่ รถตู้ VIP 1 คัน กับทีมงาน 2 คน จึงไม่เข้าใจว่ามีค่าดำเนินการอะไร