กลายเป็นข่าวใหญ่ ที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนฟุตบอลจำนวนมาก สำหรับข่าวการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเมื่อ ‘JAS’ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาเป็นผู้ถือสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายใหม่แทนที่ของ TrueVisions ในฤดูกาลหน้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะทำให้เกิดอะไรบ้าง เราสรุปออกมาเป็น 3 เรื่องดังนี้

1. JAS คือใคร ทำไมถึงประมูลลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก

‘JAS’ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) คือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธุรกิจส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รับจัดหาออกแบบวางระบบโทรคมนาคม เป็นต้น โดยในปัจจุบันทาง JAS มีช่องทางฟรีทีวีหลักคือ ช่อง MONO 29 อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการ 3BB GIGATV อีกด้วย

โดยสาเหตุที่ JAS เข้ามาประมูลลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก เกิดจากความสนใจที่มีต่อฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมาเป็นเวลานาน เพียงแค่ที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อม แต่หลังจากได้เงินมาจากการขายธุรกิจ 3BB และ JASIF รวมทั้งสิ้นกว่า 32,420 บาท ทำให้สามารถนำเงินส่วนนี้มาลงทุนยื่นประมูลได้

ซึ่งในสัญญาเบื้องต้นทาง JAS จะถือลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ แต่เพียงผู้เดียว เป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2024-25 จนถึง 2026-27 ก่อนที่จะขยายเป็น 6 ฤดูกาล หากได้รับการรับรองจาก FAPL โดยราคาสำหรับถือลิขสิทธิ์ 6 ฤดูกาล จะอยู่ที่ 549,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 18,791,885,700 บาท 

2. ดูได้ช่องทางไหน

แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสามารถรับชมได้ผ่านช่องทางหลัก คือ MONOMAX ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิงออนไลน์ และทางช่อง MONO29 ซึ่งเป็นฟรีทีวี ของ MONO NEXT PCL. ดังนั้นจะมีถ่ายทอดสดผ่านทาง ฟรีทีวี อย่างแน่นอน ทางช่อง MONO29 

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการจัดจำหน่ายผ่านทุก Network และ Mobile operators อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทาง App Store (iOS) และ Google Store, AIS หรือ TRUE เพื่อสนับสนุนให้คอนเทนต์มีการเข้าถึงและครอบคลุมผู้ชมได้มากที่สุด

โดยในปัจจุบันการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกจะมีเพียง AIS PLAY ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น แต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตหากมีการพูดคุยกับพันธมิตรอื่นเพิ่มเติม

3.ราคาและคุณภาพจะเป็นอย่างไร

ดร. โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาเผยว่า ราคาของแพ็กเกจจะถูกกว่าราคาตลาดปัจจุบันแน่นอน และนโยบายราคาเดียว ไม่ว่าจะรับชมผ่านทางช่องทางไหน ราคาแพ็กเกจเฉพาะการดูพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว ราคาจะไม่สูงกว่า 400 บาท / เดือน

โดยที่คุณภาพการถ่ายทอดสด ทาง JAS พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชม ตั้งเป้าให้สัญญาณภาพคมชัดระดับ Full-HD และรองรับความละเอียดระดับ 4K ในบางแมตช์ ด้วยเทคโนโลยีการปรับ Auto bit rate ตามความเร็วของอินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ชม อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบให้สามารถรับชมพร้อมกันได้ 4 จอ

ส่วนเรื่องทีมพากย์ ในเบื้องต้น ทาง JAS มีความตั้งใจที่จะสร้างทีมพากย์ใหม่ โดยได้มีการติดต่อเจรจากับสื่อกีฬามากมายทั้ง สยามกีฬา, ขอบสนาม, เมน สแตนด์, เดอะ สแตนดาร์ด สปอร์ต, วาทะลูกหนัง, NR SPORT, เจ๊ดำ, ตังกุย, แมวเพชร และวิเคราะห์บอลจริงจัง ฯลฯ ซึ่งข้อสรุปจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอติดตามชม