การพ่ายแพ้ 5 นัดติดต่อกันของ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นภาพที่ใครก็น่าจะจินตนาการไม่ออกว่าจะเกิดกับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ จากทีมแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลก่อน ที่เก็บคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำ ชนะทีมอื่นเป็นว่าเล่น แต่ในฤดูกาลนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น
หลัง 5 นัดล่าสุดในทุกรายการ พวกเขาพ่ายแพ้ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีมในรอบ 8 ปี จนหลายคนตั้งคำถามว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับแมนฯ ซิตี้ กันแน่ พวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ เราจึงสรุปออกมาให้เป็น 5 ประเด็นดังนี้
ปัญหาที่ซิตี้กำลังเผชิญ
1. นักเตะล้า
อาการเหนื่อยและอาการล้าสะสมของนักเตะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมนฯ ซิตี้ฟอร์มดรอปในฤดูกาลนี้ การที่ต้องลงเล่นในระดับ 60-70 นัดติดต่อหลาย ๆ ปี ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของนักเตะแบบปฏิเสธไม่ได้ โดยยังไม่นับรวมถึงเกมในระดับทีมชาติ ที่ตัวหลักของแมนฯ ซิตี ก็ต่างเป็นตัวหลักของทีมชาติด้วยเช่นกัน ซึ่งนั้นยิ่งทำให้จำนวนการลงสนามมากขึ้นตามไปด้วย
“ผมสามารถบอกพวกคุณได้ว่าจำนวนการแข่งขันระดับ 60 – 70 เกมต่อปี เป็นจำนวนเกมที่ผู้เล่นสามารถทำผลงานได้ในระดับสูงได้ก็จริง แต่หลังจากนั้นร่างกายของคุณจะร่วงโรยลงมา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาระดับร่างกายเอาไว้ได้”
“ผมคิดว่ามันเป็นจำนวนเกมที่มากเกินไป ต้องมีใครสักคนเข้ามาดูแลเรา ไม่ใช่จะคำนึงแต่เงินหรือการตลาด สิ่งที่ต้องคำนึงคือคุณภาพของการแข่งขันต่างหาก ในความคิดของผม เมื่อผมไม่เหนื่อย ผมก็สามารถทำผลงานออกมาได้ดี ซึ่งถ้าผู้คนต้องการดูฟุตบอลที่คุณภาพดีขึ้น เราจำเป็นต้องพักผ่อน” โรดรี้ กองกลางของทีมกล่าว
2. นักเตะบาดเจ็บ
ปัญหานี้สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้ว นั้นคืออาการบาดเจ็บ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของแมนฯ ซิตี ในฤดูกาลนี้ การขาดตัวหลักคนสำคัญทั้ง โรดรี้, เควิน เดอบรอยน์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, แจ็ค กรีลิช, เฌเรมี่ โดกู, นาธาน อาเก้, มานูเอล อาคานจี, ออสการ์ บ็อบบ์, มาเตโอ โควาซิซ และรวมถึงคนอื่น ๆ ที่ผลัดกันเจ็บในฤดูกาลนี้ สร้างผลกระทบให้กับทีมเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ โรดรี้ กองกลางบัลลงดอร์ของทีม ที่เจ็บยาวจนปิดซีซันไปแล้ว ที่สร้างผลกระทบให้กับทีมอย่างชัดเจน ทั้งในมิติเกมรุกและเกมรับ ทำให้ทีมไม่มีตัวสกรีนตัดบอลก่อนที่จะกองหลัง และไม่มีตัวคุมจังหวะช่วยทีมในเกมรุก หนึ่งในสถิติที่ชี้ได้ชัดว่า โรดรี้ นั้นมีความสำคัญขนาดไหน คือสถิติเมื่อทีมมี โรดรี้ ลงเล่น เปอร์เซ็นต์ชนะของทีมจะสูงถึง 78% แต่พอไม่มีโรดรี้ ทีมจะมีเปอร์เซ็นต์ชนะเหลือเพียง 50% เท่านั้น
3. การขาดตัวทดแทน
อีกหนึ่งปัญหาของแมนฯ ซิตี ในฤดูกาลนี้ ก็คือตัวสำรองที่ไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้ ทั้งที่ในฤดูกาลก่อน ๆ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของแมนฯ ซิตี เลย เนื่องจากพวกเขามักจะอุดมไปด้วยนักเตะระดับท็อปอยู่เสมอ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง
การที่ไม่ได้หาตัวทดแทนในตำแหน่งของ โรดรี้ เข้ามา นับเป็นการวางแผนเสริมทัพที่ผิดพลาดในฤดูกาลนี้ ซึ่งทำให้ทีมจำเป็นต้องโยกทาง โควาซิซ หรือ ริโก้ ลูอิส มายืนในตำแหน่งนี้แทน ซึ่งก็พอแก้ขัดได้บ้าง แต่ด้วยความที่ไม่ได้เป็นตำแหน่งที่ถนัดของทั้งคู่ จึงทำให้คุณภาพและมาตรฐานโดยรวมลดลงไปพอสมควร
อีกหนึ่งจุดที่ผิดพลาดคือ การขายฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ออกไปจากทีม แต่กลับไม่ได้ซื้อตัวเข้ามาแทนในตำแหน่งนี้ ทำให้ทีมขาดกองหน้าชั้นยอดที่จะคอยลงมาทดแทนโรเตชั่นในช่วงที่ ฮาแลนด์ ฟอร์มดรอปหรือไม่ฟิต ส่งผลให้ภาระหนักจึงตกไปอยู่ที่ ฮาแลนด์ เพียงคนเดียว
4. นักเตะฟอร์มหลุด
เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างจากฤดูกาลก่อนหรือในช่วงต้นฤดูกาล นักเตะหลายคนต่างพร้อมใจกันหลุดฟอร์ม เกมรุกฝืดไม่มีความเฉียบคม ส่วนเกมรับก็พร้อมที่จะเสียทุกเมื่อ ดูได้จากสถิติ 5 นัดหลังสุด ที่แพ้รวดติดต่อกัน พวกเขาทำประตูได้เพียง 4 ประตู แต่เสียไปถึง 14 ประตู
“พวกเราเคยเห็น แมนฯ ซิตี แพ้ก็จริง แต่การที่เห็นพวกเขาแย่ในทุกจุดอย่างงี้ พวกเราไม่เคยเห็น พวกเขาดูแย่ที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเห็นมาในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” แกรี่ เนวิลล์ กล่าว
สิ่งที่ เนวิลล์ กล่าวนั้นไม่ได้เกินจริงแต่อย่างไร ภาพรวมของแมนฯ ซิตี ในช่วงนี้ตกลงไปอย่างชัดเจน แนวรับที่เคยเหนียวแน่นกลับพลาดเสียประตูกันง่าย ๆ ไคล์ วอล์คเกอร์ จากแบ็กที่ใครก็ยากที่จะเลี้ยงบอลผ่าน แต่ในตอนนี้กลับถูกเลี้ยงผ่านเป็นว่าเล่น
แดนกลางที่เคยส่งบอลกันแม่นยำ กลับส่งบอลพลาดกันง่าย ๆ เสียบอลกลางสนาม ทำให้มักเสียประตูจากลูกสวนกลับอยู่บ่อยครั้ง ส่วนในแนวรุกก็ดรอปลงไปอย่างน่าใจหาย ทั้ง โฟเด้น, แบร์นาโด้, กุนโดกัน, ซาวินโญ่ และกรีลิช รวมไปถึงคนที่หวังพึ่งได้มากที่สุดอย่าง ฮาแลนด์ ด้วยเช่นกัน ที่สถิติการทำประตูในช่วงหลังน้อยลงพอสมควร จากการที่ขาดตัวป้อนอย่าง เดอบรอยน์
5. แรงกระหายลดลง
เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจาก แมนฯ ซิตี เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงหลัง การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 6 จาก 7 ครั้งหลังสุด รวมไปถึงการคว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาล 2022-23 ความท้าทายและแรงกระหายที่มีก็อาจจะน้อยลงเป็นธรรมดา ทั้งนี้อาจรวมไปถึงเรื่องนอกสนามที่อาจมารบกวนจิตใจอยู่บ้าง กับคดี 115 กระทงที่แมนฯ ซิตีกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร
ในท้ายที่สุดอย่างที่ทุกคนรู้กันว่า ทุกทีมก็ต่างมีช่วงเวลาที่ทั้งดีและแย่ด้วยกันทั้งนั้น สิ่งที่แมนฯ ซิตี กำลังเผชิญอยู่ ก็เหมือนเป็นหนึ่งในบททดสอบว่าพวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาและผ่านไปได้หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวยังเชื่อว่ากุนซืออย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถพาทีมกลับมาได้อย่างแน่นอน
ส่วนเส้นทางการลุ้นแชมป์นั้นยังอีกยาวไกล พรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านไป 12 นัด การตามหลังจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูล 8 คะแนน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งพวกเขาก็เคยทำให้เราเห็นมาแล้วว่า ช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าฟอร์มน่ากลัวขนาดไหน ฉะนั้นจะประมาทพวกเขาไม่ได้เป็นอันขาด