‘โดมินิค โซบอสซ์ไล’ ชื่อนี้กลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลลิเวอร์พูลไปแล้ว ในเกมล่าสุดที่ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมต้องออกไปเยือน ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งผลการแข่งขันหลังจบ 90 นาทีก็ปรากฏว่าเป็นทาง ลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่าบุกไปเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ถึงถิ่นเอทิฮัด 0-2 นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีที่ลิเวอร์พูลบุกมาชนะที่นี่

โดยหลังจบเกมแน่นอนว่าทุกคนก็ต่างโฟกัสไปที่แมนออฟเดอะแมตช์ของเกมนี้อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูที่ทีมทำได้ หรือ อาจจะเป็น เวอร์จิล ฟานไดจ์ค ที่ในเกมนี้ มีส่วนช่วยทั้งสกัดทั้งเคลียร์บอล ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูตลอดทั้งเกมนี้ 

แต่อีกคนที่จะถูกมองไปไม่ได้ก็คือ โดมินิค โซบอสซ์ไล กองกลางทีมชาติฮังการี ที่ในเกมนี้ ตัวเขาได้ใจเด็กหงส์ไปแบบเต็ม ๆ ด้วยความทุ่มเททำงานหนักตลอด 90 นาที ขึ้นสุดลงสุด มีส่วนช่วยทั้งเกมรับ และ เกมรุก อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่ในเกมนี้เป็นเกมที่ 4 ของเขาแล้ว ในช่วงระยะเวลาเพียงไม่ถึง 12 วัน ที่ตัวเขาลงช่วยทีมแบบเต็มเกมตลอด 90 นาที

อีกทั้งตัวเขามีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูที่ทีมทำได้ จากการประสานกันของตัวเขา และ ซาลาห์ ที่เล่นกันได้อย่างรู้ใจ จนสามารถช่วยทีมเก็บ 3 แต้มได้ในเกมนี้ พร้อมทำห่างทิ้งห่างอาร์เซนอลคู่แข่งแย่งแชมป์ไปถึง 11 คะแนน ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ลิเวอร์พูลน่าจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ในปีนี้ได้ไม่ยาก

สิ่งเหล่านี้จะไม่ให้แฟนบอลลิเวอร์พูลหลงรัก โซบอสซ์ไล ได้อย่างไร ยิ่งภาพที่หลังจบเกม โซบอสซ์ไล ก้มหน้านอนลงกับพื้นหญ้า ยิ่งเป็นโมเมนต์ที่แสดงให้เห็นว่าในเกมนี้เขาใส่สุดแค่ไหน อีกทั้งยังมีภาพที่กุนซือคู่แข่งอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังต้องเข้ามาจับมือชื่นชมตัวเขาหลังจบเกมถึงความทุ่มเทของเขาในนัดนี้

 

หูของผมแทบไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว ผมเหนื่อยมากจริง ๆ ผมยอมรับว่าผมแทบไม่ได้ยินเสียงเพลงที่แฟนลิเวอร์พูลร้องเลยด้วยซ้ำ

โดมินิค โซบอสซ์ไล

บทสัมภาษณ์นี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตัวเขาใส่เต็มกับนัดนี้จริง ๆ จากสถิติเปิดเผยว่า โซบอสซ์ไล มีสถิติในการวิ่งเข้าเพรสซิ่งใส่คู่แข่งเป็นอันดับ 1 ของทีม พร้อมกับวิ่งในสนามรวมไปกว่า 11 กิโลเมตร ตลอดทั้งเกม

ด้าน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางเพื่อนร่วมทีมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง โซบอสซ์ไล ไว้ว่า 

“ดอมเป็นสำคัญของทีม พวกคุณจะเห็นได้จากสภาพร่างกายของเขาว่าเขาเก่งแค่ไหน เขายิงประตูได้ เขาจ่ายบอลได้ และเขาก็ทำผลงานได้ดีมาก ๆ “

“เรามีกองกลางที่เก่งมาก ซึ่งย้ายมาอยู่กับสโมสรในช่วงเวลาเดียวกัน เราส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ดีมาก และเรามีความสุขที่ได้เล่นร่วมกัน”

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เกมแรก ที่เราได้เห็น โซบอสซ์ไล ทุ่มเทใส่สุดขนาดนี้ มันกลายเป็นภาพจำที่แฟนลิเวอร์พูลได้เห็นมันจนชินตา จากทุกเกมที่ตัวเขาได้ลงสนามตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา แม้บางครั้งตัวเขาจะโดนวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอยู่บ้าง ในฐานะกองกลางตัวรุกแต่อาจไม่ได้มีส่วนร่วมกับประตูมากเท่าที่ควร แต่ถ้ามองกันแค่เรื่องหัวจิตหัวใจรับรองว่าแฟนลิเวอร์พูล จะไม่สงสัยถึงสิ่งนี้ในตัวเขาอย่างแน่นอน