เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ 2012 สโมสรซานตาครูซ เอฟซี (FC Santa Cruz) พ่ายแพ้ต่อเกรมิโอ (Gremio) ไปด้วยสกอร์ 4-1 วันนั้นมีแฟนบอลซานตาครูซเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในสนาม เขาคนนั้นคือติอาโก เรช (Tiago Rech) ในวัย 23 ปี ติอาโกนั่งอยู่คนเดียวบนอัฒจันทร์ ซึมซาบความเจ็บปวดตลอดทั้งซีซันและผลลัพธ์ที่ทีมรักต้องตกลงไปเล่นในลีกดิวิชัน 2
ดังนั้นเมื่อซานตาครูซ เอฟซีได้รับชัยชนะในถ้วย FGF Cup และผ่านเข้ารอบรายการ Copa do Brasil ในเดือนธันวาคม 2020 นี่จึงเป็นความสำเร็จสูงสุดของติอาโก ไม่ใช่แค่ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งของสโมสร แต่วันนี้เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมในฐานะประธานสโมสรด้วย และนี่คือเรื่องราวของการพกพาความหลงใหลและทุ่มเทในฐานะแฟนบอลไปสู่การเดินรอยตามฝันได้สำเร็จ
ซานตาครูซดูซูล (Santa Cruz do Sul) เป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศบราซิล ซึ่งเป็นบ้านเกิดของติอาโก เขาเกิด เติบโตและเป็นฮีโรที่นี่ ติอาโกทำงานเป็นโฆษกให้กับนายกเทศมนตรีประจำเมืองและยังทำหน้าที่นักข่าวให้กับบริษัทเอเจนซีของตัวเองชื่อ Rech Content แต่ความหลงใหลทั้งหมดล้้วนตกอยู่ที่สโมสรซานตาครูซ เอฟซีเท่านั้น ติอาโกกล่าวว่า “เมื่อผมยังเด็ก ผมมักดูการแข่งของซานตาครูซร่วมกับคุณพ่อเสมอ แต่พอผมโตขึ้นนั่นเป็นช่วงที่ผมรู้สึกว่าซานตาครูซคือชีวิตของผม”
ปี 2013 ติอาโกย้ายเมืองจากปอร์ตูอเลกรี (Porto Alegre) ไปสู่ซานตาครูซดูซูล และกลายเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้กับสโมสรที่เขารัก ทว่าในตอนนั้นยังเป็นสโมสรเล็ก ๆ และมีทรัพยากรจำกัด เขาจึงได้ทำหน้าที่มากกว่าตำแหน่งของตัวเอง ทั้งการดูแลหลังบ้านและการบริหารจัดการ ทำให้ความกระตือรือร้นของเขาไปเตะตากรรมการสโมสรเข้า
“ปี 2014 ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้อำนวยการถึงความสำคัญของการที่สโมสรซานตาครูซ เอฟซีต้องเล่นในลีกสเตทแชมเปียนชิพ ดิวิชัน 2 ตลอดทั้งปี เนื่องจากก่อนหน้านี้ซานตาครูซ เอฟซียังอยู่ในลีกบนของสเตทแชมเปียนชิพที่เตะเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น ทำให้สโมสรสามารถปิดทำการได้มากกว่า 6 เดือนต่อปี “การแข่งขันตลอดทั้งปี คุณสามารถเก็บโค้ชคนเดิมไว้ได้ จ้างผู้เล่นที่มีแพชชันกับสโมสรแห่งนี้ ซึ่งทำให้ทีมมีความมั่นคงและทำงานได้ต่อเนื่อง”
ติอาโกพูดคุยกับผู้อำนวยการและเสนอให้พวกเขาเข้าร่วมรายการ Copa FGF ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2014 พวกเขาเห็นด้วยและถามติอาโกว่า “เขาอยากจะมาทำหน้าที่ประธานสโมสรไหม?” นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีอยากปฏิเสธ และจัดให้มีการเลือกตั้งในปีต่อมา ถึงแม้ว่าข้อเสนอนั้นคนที่บ้านติอาโกอาจไม่เห็นด้วยก็ตาม
“แรกเริ่มครอบครัวไม่ต้องการให้ผมทำสิ่งนี้ เพราะว่าผมทำงานอยู่กับหนังสือพิมพ์หัวใหญ่และเป็นบริษัทที่ดี รวมถึงมีอนาคตที่มั่นคงในฐานะนักข่าวและเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่ผมต้องการมัน (ประธานสโมสร) อย่างมากจึงพยายามทำให้คนที่บ้านเชื่อใจผม”
หลังจากที่ติอาโกเข้ามาทำงานในตำแหน่งประธานสโมสร ฤดูกาลแรก (ปี 2014-2015) ของเขาในฐานะประธานสโมสรไม่เป็นไปตามแผนมากนัก เขาลงทุนและเสียเงินส่วนตัวเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งปี 2015 ติอาโกตัดสินใจย้ายกลับไปที่เมืองปอร์ตูอเลกรี ช่วงเวลานั้นสโมสรซานตาครูซ เอฟซีตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปี 2018 ซานตาครูซ เอฟซีตกต่ำโดยสมบูรณ์จากการตกลงไปเล่นในลีกสเตทแชมเปียนชิพ ดิวิชัน 3 และต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน
ติอาโกผูกพันกับสโมสรในแบบที่ประธานคนอื่น ๆ ไม่มี เขาทุ่มเทอย่างมากในการพลิกฟื้นสโมสรเพื่อให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยหลังจากการตกชั้น 6 เดือนต่อมาเขากลับมาอีกครั้งในฐานะประธานสโมสร “มันเป็นงานยาก ผมสูญเสียเงินจำนวนมาก ผมสูญสิ้นความหวัง ผมหยุดความคิดที่ว่าการจัดการทีมฟุตบอลไม่เหมาะกับผมไม่ได้ ผมเกือบจะยอมแพ้กับฟุตบอลไปแล้ว แต่ผมต้องกลับมาให้ได้ภายในเดือนมกราคม 2019 ทว่าผมจำเป็นต้องมีประสบการณ์มากกว่านี้และเลือกคนให้ถูกที่จะมาทำงานร่วมกับผม มันคุ้มค่าที่จะไม่ยอมแพ้”
“การตกมาเล่นในดิวิชัน 3 ไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับสโมสรของเรา ทีมซานตาครูซชนหินก้อนใหญ่เข้าอย่างจัง ผมอยู่ตรงนั้นตอนมันเกิดขึ้น ไม่ใช่กับประธานสโมสรหรือผู้อำนวยการแต่เป็นแฟนบอล คุณลองนึกภาพดูว่ามันเศร้าขนาดไหน เมื่อผู้คนพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการยุบสโมสรนี้” ติอาโกกล่าวต่อว่า “การยุบสโมสรเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน หลังจากการทำงาน 3 ปีในปอร์ตูอเลกรีทำให้การเงินของผมคล่องตัวขึ้น ภารกิจของผมคือรักษาสโมสรแห่งนี้และหาทางที่จะกอบกู้มัน”
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2020 สโมสรซานตาครูซ เอฟซีเก็บชัยชนะรอบชิงชนะเลิศจากรายการ FGF Cup ซึ่งเป็นถ้วยแรกของประวัติศาสตร์สโมสร รวมถึงผ่านเข้ารอบรายการ Copa do Brasil ไปจนถึงเข้าไปเตะรายการ Community Shield กับคู่อริอย่างเกรมิโอด้วย
ปี 2020 ติอาโกมีอายุ 33 ปี เขาพำนักและทำงานเป็นนักข่าวในเมืองปอร์ตูอเลกรี และจัดการงานส่วนใหญ่ในฐานะประธานสโมสรผ่าน WhatsApp ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์เขามักจะเดินทางไปชมการแข่งของซานตาครูซ เอฟซีอยู่เสมอ ปี 2021 เขาย้ายกลับมาบ้านที่แท้จริงที่ซานตาครูซอีกครั้ง ติอาโกวางแผนเลือกตั้งประธานสโมสรอีกหนเพื่อเตรียมตัวที่จะแข่งขันในศึก Copa do Brasil รวมถึงพาสโมสรที่รักของเขากลับสู่ลีกที่สูงขึ้นต่อไป
“เมื่อผมอายุ 15 ปี ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกของบอร์ดหรือแม้กระทั่งเป็นประธานสโมสร ผมใฝ่ฝันที่จะคว้าแชมป์มาโดยตลอดเพื่อสร้างความแตกต่าง จากการเป็นแฟนคลับคนเดียวในสนามสู่การเลือกตั้งเป็นประธานสโมสร รวมถึงคว้าแชมป์ได้ในปัจจุบัน นี่คือจุดเริ่มต้นของสโมสรแห่งนี้” ติอาโกกล่าวปิดท้าย
อ้างอิง copa90
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส