เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ‘ลิโอเนล เมสซี’ (Lionel Messi) นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินาวัย 34 ปี เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6 สมัย จะย้ายมาร่วมสโมสร ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ (Paris Saint-Germain F.C.) ด้วยสัญญา 2 ปี พ่วงออปชัน 1 ปี และสวมเสื้อหมายเลข 30 ซึ่งเป็นเบอร์แรกของเจ้าตัวที่สวมลงเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกในชีวิตกับสโมสรบาร์เซโลนา
การย้ายทีมของนักเตะ One-club player อย่างเมสซี สร้างความตกใจแก่แฟนบอลทั่วโลกเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับแฟนเปแอสเซที่ตื่นเต้นออกมารอรับเมสซีตั้งแต่รู้ข่าวว่า นักเตะจะเดินทางมาแถลงข่าวที่สโมสรอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 สิงหาคมนี้
ลิโอเนล เมสซี กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากย้ายมาร่วมทีมเปแอสเซว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่ในอาชีพของผมที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรนี้กับผมเรามีเป้าหมายเดียวกัน ผมรู้ว่าทีมชุดนี้และโค้ชยอดเยี่ยมแค่ไหน ผมมั่นใจว่าจะสามารถสร้างสิ่งพิเศษให้แก่สโมสรและแฟนบอล รวมถึงตั้งตารอเวลาลงสนามที่ปาร์ก เดส์ แปรงซ์”
การมาของเมสซีทำให้ ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ กลายเป็นสโมสรที่จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะสูงที่สุดในโลกประมาณปีละ 256 ล้านปอนด์ (ประมาณ 11,850 ล้านบาท) เนื่องจากคาดว่าเจ้าตัวจะรับค่าเหนื่อยประมาณ 25 ล้านปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1,150 ล้านบาท) ขณะเดียวกันสโมสรเดิมของเมสซีอย่างบาร์เซโลนาที่เคยเป็นสโมสรที่จ่ายค่าเหนื่อยสูงที่สุด พอเมสซีย้ายออกไปจึงตกลงมาอยู่อันดับที่ 4 ด้วยค่าเหนื่อยรวม 195 ล้านปอนด์ต่อปี
นอกจากนี้การย้ายออกของ ‘ลิโอเนล เมสซี’ อาจทำให้บาร์เซโลนาสูญเสียรายได้มากกว่า 137 ล้านยูโร (ประมาณ 5,360 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้จากสปอนเซอร์และการขายเสื้อ ไปจนถึงมูลค่าของสโมสรที่ขาดนักเตะระดับบัลลงดอร์ไปด้วย ตลอดจนอาจส่งผลไปถึงรายได้จากการขายตั๋วเมื่อการระบาดของไวรัสโควิดลดลง เพราะแฟนบอลบาร์เซโลนาส่วนใหญ่ล้วนอยากเข้าไปชมนักเตะพรสวรรค์อย่างเมสซีด้วยกันทั้งนั้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส